สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง ปิดบวก 14 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค จากผลการประชุม FED ถึงการลด QE และทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งออกมาในทิศทางเดียวกับที่ตลาดคาด โดยมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงิน นำโดยหุ้น KBANK, BBL, SCB, MTC, SAWAD, HENG แต่มีแรงขายในหุ้น PTT, OR จากราคาน้ำมันดิบท่ีปรับตัวลง ส่งผลให้ ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,626.27 จุด +14.35 จุด +0.89% มูลค่าการซื้อขาย 85,650 ลบ. ต่างชาติ +4,396.30 ลบ. TFEX +7,483 สัญญา ตราสารหนี้ +3,219.93 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ WHO ได้ให้การอนุมัติวัคซีน “โควาซิน”(Covaxin) ของบริษัทภารัต ไบโอเทค ผู้ผลิตยาสัญชาติอินเดีย เพื่อใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน

+ ครม.ให้เพิ่มวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ 4 วันในปี 65 เพื่อเป็นวันหยุดยาวกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเท่ียวและส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

+FETCO รายงานผลสำรวจในเดือน ต.ค.64 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มข้ึน 18.2%MoM แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนี โดยอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” มีปัจจัยหนุนจากคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว แผนการฉีดวัคซีน และการฟื้นตัวของศก.ในประเทศ ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนลท. ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่หลังเปิดประเทศ การถดถอยของศก.ในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,148 ราย มีผู้เสียชีวิต 80 ราย รักษาหาย 8,238 ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 33.35 จุด หรือ -0.09% โดยถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความกังวลเก่ียวกับความสามารถในการทำกำไรของภาค ธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.05 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 78.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากโอเปกพลัสมีมติ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการ คาดการณ์ที่ว่าการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียอาจพุ่งข้ึนเหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันในไม่ช้าน้ี

– WHO ระบุเตือนว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจพุ่ง แตะ 500,000 ราย

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันน้ีว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 11.2% สู่ระดับ 8.09 หมื่นล้าน ดอลลาร์ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

– PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 56.4 ในเดือนก.ย.

– หนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานผลการศึกษาฉบับใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 พ.ย.) โดยระบุว่า กวางหางขาวจำนวนมากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐไอโอวา เขตมิดเวสต์ของสหรัฐ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวออกข้างในลักษณะ Sideway หลังปรับตัวขึ้นแรงวันก่อน โดยมีแรงกดดันจากหุ้น กลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวลง ขณะนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1620-1,633 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH
  • ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต TU NER TWPC SKN HTECH
  • หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี GULF EKH KCE WICE SKN

หุ้นรายงานพิเศษ

ONEE – บมจ. เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (IPO 8.5 บาท)

  • ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น ซึ่งประกอบธุรกิจด้านสื่อและความบันเทิงท่ีครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่า  ตั้งแต่การเป็นผู้สร้างสรรค์และผลิตรายการ ไปจนถึงการเป็นเจ้าของช่องทางเผยแพร่ที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์
  • สัดส่วนรายได้ในปี 63 แบ่งเป็น (1) รายได้จากการบริการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ 67.7% (2) รายได้จากการบริหารลิขสิทธ์ิ 20.6% (3) รายได้จากธุรกิจรับจ้างผลิตและบริการ 7.5% ช่วงปี 61-63 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 2,692 ลบ. 2,692 ลบ. และ 3,127 ลบ. ตามลำดับ คิดเป็น 3-Yr CAGR 7.8% ต่อปี โดยมีกำไรสุทธิในปี 61-63 ท่ี 29 ลบ. 178 ลบ. และ 634 ลบ. ส่วนช่วง 1H64 มี รายได้ 2,737 ลบ. +100% มีกำไรสุทธิที่ 455 ลบ. กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มาจากการเติบโตของรายได้ รวมการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และการลดลงของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินต่อรายได้รวม
  • เสนอขายหุ้นจำนวน 496.25 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 20.8 ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 4,218 ลบ. ราคา Par 2.0 บาท มีวัตถุประสงค์การใช้เงินดังนี้ 1.การลงทุนพัฒนาศักยภาพในการผลิตรายการและเพิ่มงบประมาณผลิตรายการ 500 ลบ. 2.การลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ 130 ลบ. 3.การปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการชำระคืนหน้ีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 2,200 ลบ. 4.เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ โดยมีหุ้นที่ไม่ติด Silent Period เท่ากับ ร้อยละ 23.1
  • P/E เสนอขายที่ 23.2x เมื่อเทียบกับ P/E ของบริษัทท่ีประกอบธุรกิจคล้ายกันที่ระดับ 32.9 -75.1 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) HTECH (Bloomberg Consensus 8.70 บาท) ลั่นความต้องการ Cutting Tools ถล่มทลาย ตามฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ รับแห่ใช้ Cloud, IOT และ 5G ไม่รวมอีวี แย้มลูกค้ามีแผนเดินหน้าชิ้นส่วนอีวีมากข้ึน พร้อมลุยลูกค้าใหม่ เดินหน้าอัพกำลังผลิตขยายตลาดสหรัฐ-เวียดนาม จับตาไตรมาส 3/2564 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ETE (Bloomberg Consensus – บาท) ชูแผนงานปี 65 โฟกัสธุรกิจพลังงานเต็มที่ เตรียมกดปุ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าไบโอแมสต้นปีหน้า ปั๊มกำลังผลิตแตะ 17.64 เมกะวัตต์ ส่งซิกเตรียมลงทุนอีกหลายโครงการ พร้อมลุยโรงงานไม้สับ ดันมาร์จิ้น พร้อมเดินหน้าประมูลงาน 5 พันล้านบาทเติมพอร์ต (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) KBANK (Bloomberg Consensus 161.00 บาท) แบงก์กสิกรไทย (KBANK) ส่ง KVision เข้าลงทุนใน Seedcom ยักษ์ค้าปลีกเวียดนาม รุกบริการการเงินด้านฟินเทค เผย Seedcom มีลูกค้า SMEs อยู่กว่า 2 แสนราย และลูกค้าผู้บริโภคอีกกว่า 2 ล้านราย ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น KBANK ล่าสุด NVDR ซื้อสุทธิอีกกว่า 2.6 พันล้านบาท ตลอดสัปดาห์ท่ีผ่านมา (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) LALIN (ราคาเหมาะสม 12.30 บาท) “ลลิล” เผย 10 เดือนแรกกวาดยอดขายสะสม 6,200- 6,300 ล้านบาท โต 10-12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็น 90% ของเป้าท้ังปีที่ตั้งไว้ 7,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัด 6,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 1,300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 5 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
  • สัปดาห์ที่ 2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน และอัพเดทสถานการณ์ลงทุน ตลท. แถลงข้อมูลสรุปภาวะซื้อขายหลักทรัพย์
  • 10 พ.ย. ประชุมกนง.ครั้งท่ี 7/2564
  • สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท.  แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 15-16 พ.ย.ประชุม ครม.สัญจร จ.กระบี่
  • 15 พ.ย. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP 3Q64 กำหนดวันสุดท้ายส่งงบ 3Q64
  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 5 พ.ย.อียรายงานยอดค้าปลีกเดือน ก.ย.

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค.

  • 7 พ.ย. จีนรายงานยอดนำเข้า, ส่งออกและดุลการค้าเดือนต.ค.
  • 9 พ.ย. อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จากสถาบัน ZEW

สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือน ต.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

  • 10 พ.ย. จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA

- Advertisement -