บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

ENERGY ABSOLUTE คาดกำไรปกติเติบโต QoQ และ YoY จากการส่งมอบ EV Bus

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +21.8%

Close Nov 04, 2021 Price (THB) 66.50

12M Target (THB) 81.00

Previous Target (THB) 70.00

What’s new?

  • คาดกาไรปกติ 3Q64 ที่ 1,270 ล้านบาท เติบโต QoQ จาก 1) CF ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่สูงขึ้น 2) การส่งมอบ EV Bus ใน 3Q64 และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และเติบโต YoY จากกระแสลมท่ีไม่เลื่อนฤดูกาล การส่งมอบรถบัส และการรับรู้รายได้จากธุรกิจ Bio-PCM
  • กำไรปกติ 4Q64 มีแนวโน้มเติบโต QoQ จาก 1) การฟื้นตัวของการเดินทางในประเทศ 2) การ COD โรงงานแบตเตอรี่ใน 4Q64 และ 3) การส่งมอบรถ EV Bus เพิ่มเติมใน 4Q64

Our View

  • คาดได้รับประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรม EV ของภาครัฐ เนื่องจากเป็นบริษัทท่ีมีการลงทุนในธุรกิจท่ีเก่ียวข้องกับ EV (EV, EV Charger และ Battery) อย่างเด่นชัด โดยคาดมาตรการสนับสนุน EV จากทางภาครัฐจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในปี 2564
  • เราให้ EA เป็นหุ้นเด่นในธีม EV ของกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 81.00 บาท มี Upside +21.8% คงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไรปกติ 3Q64 เติบโต QoQ และ YoY จากการส่งมอบรถบัส

คาดกำไรปกติ 3Q64 ท่ี 1,270 ล้านบาท (+9% QoQ, +19% YoY) เติบโต QoQ แม้จะได้รับผลกระทบจาก มาตรการ Lockdown ของภาครัฐที่ทำให้มีปริมาณขาย Biodiesel ลดลง เพราะได้รับแรงหนุนจากจาก 1) Capacity Factor (CF) ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล 2) การส่งมอบรถ EV Bus ราว 77 คันใน 3Q64 (ราคาขายต่อคันราว 6-7 ล้านบาท) และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น QoQ จากการที่บริษัทฯมีสัด ส่วนรายได้จากธุรกิจ Biodiesel ลดลง QoQ รวมถึงรายได้จากการขายไฟฟ้าที่มีสัดส่วนสูงขึ้น QoQ โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 41.0% (เทียบกับ 37.0% ใน 2Q64) ในขณะที่การเติบโต YoY หนุนจาก 1) ฤดูมรสุมที่ไม่เลื่อนเหมือนในปีก่อน ทำให้ค่า CF ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมสูงขึ้นแบบ YoY 2) การส่งมอบรถ EV Bus ใน 3Q64 และ 3) การรับรู้รายได้จากธุรกิจ Bio-PCM หากกำไรปกติ 3Q64 ออกมาใกล้เคียงคาดกำไรปกติ 9M64 จะคิดเป็นสัดส่วน 70% ของประมาณการทั้งปี

แนวโน้มกำไรปกติ 4Q64 เติบโตต่อเนื่อง QoQ

แนวโน้มกำไร 4Q64 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง QoQ แม้จะมีการลดสัดส่วนการใช้น้ำมัน Biodiesel ลงจาก B7 และ B10 ลงเป็น B6 ในช่วงเดือนต.ค. เนื่องจาก 1) การฟื้นตัวของการเดินทางภายในประเทศและการเปิดประเทศตั้งแต่เดือนพ.ย.จะสามารถลดทอนผลกระทบจากการปรับสัดส่วนน้ำมันดีเซลได้ในระดับหนึ่ง 2) การ COD โรงงานแบตเตอรี่ในช่วงกลาง 4Q64 (เลื่อนมาจาก 3Q64) จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯในธุรกิจ EV และ Battery ดีขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นที่จะต้องส่ัง Battery Module มาจากไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบและส่งมอบ (ปัจจุบันเป็นการสั่ง Battery Module มาจากไต้หวันและประกอบในไทย) 3) คาดบริษัทฯจะสามารถส่งมอบรถ EV Bus เพิ่มเติมได้ใน 4Q64 โดยบริษัทฯตั้งเป้าขายรถ EV Bus ราว 400 คันใน 4Q64 ซึ่งมากกว่าใน 3Q64 ที่ราว 120 คัน

รอรับประโยชน์จากการมาตรการสนับสนุน EV ของภาครัฐ

ในปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือถึงมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทย คาดนโยบายที่จะมีการประกาศใช้คือ 1) การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ที่มีการปลดปล่อย CO2 2) การส่งเสริมการลงทุนการผลิต EV ผ่านสิทธิการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามขนาดการลงทุน และ 3) ปรับปรุงสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการผลิตแบตเตอรี่ที่มีการลงทุนในขั้นตอนท่ีใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยให้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีสำหรับวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นที่ไม่มีการผลิตในประเทศ เบื้องต้นคาดมาตรการต่างๆจะมีความชัดเจนในปี 2564 โดยเรามองว่า EA จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม EV มากที่สุด เนื่องจากมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น EV ประเภท ต่างๆ, EV Charger และ Battery อย่างชัดเจน จึงเป็นหุ้นเด่นในธีม EV ของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 81.00 บาท/หุ้น มี Upside +21.8%

- Advertisement -