ILM ประกาศผลงานไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 55.9 ล้านบาท แม้โดนมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการควบคุม ขณะที่รอบ 9 เดือน กำไรสุทธิ 302.2 ล้านบาท เติบโต 8.6% ยอดขายออนไลน์พุ่งทุบสถิติสูงสุดรายไตรมาสอีกครั้ง รุกปักธงแฟรนไชส์ในอินโดนีเซีย 2 สาขาในไตรมาส 4/64 มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ในปีหน้า พร้อมจับมือพันธมิตรใหม่ COM7 เข้าดำเนินการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ และคอมพิวเตอร์ เริ่ม 15 สาขา ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการงวดไตรมาส 3/64 บริษัทมีรายได้รวม 1,849.6 ล้านบาท ลดลง 7.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 55.9 ล้านบาท ลดลง 61.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลประกอบการรอบ 9 เดือนปี 2564 รายได้รวม 6,044.7 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิ 302.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ที่ปรับตัวลดลงเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการควบคุมต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฏาคมถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ส่งผลให้บางสาขาของ Index Living Mall, The Walk และ Little Walk ต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราวในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ดีกว่าไตรมาส 2/63 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์รอบแรกอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสมาร์ทโฟนและสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศไทย ให้เป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ Index Living Mall ทุกสาขา โดย COM7 จะเริ่มเข้าบริหารพื้นที่เฟสแรก 15 สาขา ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทกับ COM7 ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมธุรกิจกันและกันทั้งสองฝ่าย (Win-Win Strategy) เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการที่สาขาของ Index Living Mall มากขึ้น เนื่องจากหมวดสินค้าจะมีความครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยนโยบายเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล การเติบโตอย่างต่อเนื่องของยอดขายออนไลน์ OEM ต่างประเทศ และแฟรนไชส์ต่างประเทศของบริษัท รวมถึงการจับมือเป็นพันธมิตรกับ COM7 จะช่วยผลประกอบการของบริษัทกลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/64 โดยมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการในปี 2565 ให้สามารถกลับไปเติบโตเทียบเท่ากับช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน
*****************************************
