Our View? ”ยังไหว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,620/1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,635 / 1,640 คาดตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศบ้าง จากแรงขายทำกำไร หลังปรับตัวขึ้นรับรู้การผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐวงเงินสูงราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมท้ังการท่ี Pfizer Inc. เปิดเผยยาเม็ดรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 (Paxlovid) มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วย ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาในโรงพยาบาล และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 89% (สูงกว่ายา Molnupiravir ของ Merck & Co Inc. ท่ี 50%)

ผสานกับตลาดกลับมากังวลการเร่งตัวขึ้นของภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง หลังเมื่อวานนี้ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต +0.6% MoM และ +8.6% YoY มากสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสเร่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วกว่าท่ีตลาดคาดได้ เรามองความกังวลดังกล่าวคาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงบ้างในระยะสั้น โดยวันนี้คาดตลาดจะติดตามการเปิดเผยตัวเลข CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพื่อประเมินแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอีกครั้ง คาดจะออกมาที่ระดับ +0.4% MoM และ +4.3% YoY

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นต่อ +2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.15 ดอลลาร์/บาร์เรล (+2.71%) โดยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เรามองราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นมาในระดับหน่ึงแล้ว เริ่มเผชิญแนวต้านบริเวณจุดสูงสุดก่อนหน้าทำให้ Upside ระยะสั้นเร่ิมจำกัด ขณะท่ีคาดตลาดจะเริ่มกลับมากังวลกับการที่ปธน. โจ ไบเดน อาจประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในสหรัฐ คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้ รวมทั้งยังคงต้องติดตามแนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอีกครั้งในช่วงการเจรจาข้อตกลงทางนิวเคลียร์ในช่วงปลายเดือนนี้ ยังคงจำกัด Upside ของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศมองตลาดยังคงให้คาดสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการประชุม กนง. คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0.5% แต่ให้ติดตามคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป เรามอง กนง. จะพยายามสื่อสารในเชิงเศรษฐกิจ เริ่มสามารถฟื้นตัวขึ้นได้หลังผ่านพ้นการคุมเข้มของมาตรการ COVID-19 มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย

ในส่วนของการที่ ตลท. ประกาศแนวทางปรับปรุงเกณฑ์ในการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยนำเกณฑ์ Cash Balance มาร่วมพิจารณาด้วย แต่ยังไม่แก้เกณฑ์หุ้น Free Float ต่ำในการพิจารณา คาดจะหนุนทิศทางหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวข้ึนได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันน้ี “AU”

ซื้อเล่นสั้น แนวรับ 10.40 / 10.20 Target 11.00 / 12.00 Stop <10.10

- Advertisement -