สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเร่งตัวขึ้นในช่วงบ่ายประมาณ +6 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานรวมทั้งหุ้นกลุ่มถ่านหิน จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น ทั้ง BANPU, LANNA, AGE แต่ยังคงเห็นแรงขายให้หุ้น DELTA และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง GPSC, BGRIM ต่อเนื่องจากวันก่อน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,631.69 จุด +5.56 จุด +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 71,995 ลบ. ต่างชาติ +1,990.97 ลบ. TFEX +2,511 สัญญา ตราสารหน้ี +12,119.78 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ +2.7% ปิดที่ 84.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และบวกติดกัน 3 วัน นลท.มีมุมมองบวกต่อการผ่านร่างกม.การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ

+ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่าจะพิจารณาส่ิงบ่งชี้ในวงกว้างเพื่อประเมินภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ

+สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตดีดตัวขึ้น 0.6%MoM ในเดือน ต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวข้ึน 0.5% ในเดือนก.ย.

+ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเช่ือมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 31.7 ในเดือนพ.ย. จาก ระดับ 22.3 ในเดือนต.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 20.0

+ ครม.อนุมัติใช้งบ 500 ลบ.จัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์รักษาโควิด 2 ล้านเม็ด

+ธปท.เปิด ผลสำรวจแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อ 4Q64 พบว่าดีมานด์ขอสินเช่ือธุรกิจและภาคครัวเรือนฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ต่ำกว่า 7 พันรายเป็นวันที่สอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 6,978 ราย ผลตรวจ ATK 2,358 คน มีผู้เสียชีวิต 62 ราย รักษาหาย 7,697 ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 112.24 จุด -0.31% นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดปิดทำนิวไฮติดต่อกันหลายวัน และกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง

– ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 98.2 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.5 จากระดับ 99.1 ในเดือน ก.ย.

– เฟดเตือนวิกฤตภาคอสังหาฯจีนอาจส่งผลกระทบลามถึงระบบการเงินสหรัฐ

– เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิดหลังฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว รวม 28,293 คน

– จีนกำลังติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรของไทยส่งออกไปจีน โดยมีการยกระดับเพิ่มมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งในคนและสินค้านำเข้า

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศต่ำากว่าระดับ 7 พันรายเป็นวันท่ีสอง มอง กรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1625-1,638 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH
  • ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต TU NER TWPC SKN HTECH
  • หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี GULF EKH KCE WICE SKN
หุ้นรายงานพิเศษ
SABUY (Bloomberg Consensus 16 บาท)

  • 3Q64 มีรายได้รวม 675 ลบ. +70%QoQ,YoY จากการรักษาฐานรายได้ตู้เติมเงิน รวมถึงมีผู้เช่าระบบศูนย์อาหารเพิ่มข้ึน 14 ราย และส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม กำไรสุทธิ 56 ลบ. +19%QoQ +149%YoY การเปรียบเทียบรายปีเติบโตสูงมาก แม้มีอัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 33.7% จาก 41.8% ใน 3Q63 แต่การควบคุมคชจ.ที่ดีมากทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับข้ึนเป็น 10.8% จาก 5.3% ใน 3Q63 งวด 9M64 รายได้รวม 1,446 ลบ. +29%YoY กำไรสุทธิ 137 ลบ. +95%YoY อัตรากำไรสุทธิ 10.7% จาก 6.2% ใน 9M63 ณ ส้ิน 3Q64 มีตู้เติมเงิน 57,036 ตู้แฟรนไชส์ Shipsmile service 4,040 สาขา Vending machine 5,600 ตู้ศูนย์อาหาร 231 แห่ง พลัสเอ็กซ์เพรส 170 แห่ง
  • ล่าสุดมี 6 ดีล ดังนี้ 1.ลงทุนในบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด ถือหุ้น 50% ทำธุรกิจติดตู้ ATM 10,000 ตู หน้าร้าน 7-11 2. ซื้อตู้ Vending machine 4,600 ตู้จาก FORTH 3.ร่วมทุนกับ FSMART ถือหุ้น 50% ดำเนินธุรกิจร้านรับส่งพัสดุ ซ่อมแซมตู้จำหน่ายสินค้า 4.ขยายเครือข่ายร้านรับส่งพัสดุ ถือหุ้น 70% ในบ. เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส จำกัด 5.ซื้อหุ้น 60% ในบ.เอ็มพ้อยท์เอ็กเพรส จำกัด 6. เพิ่มการลงทุนใน Shipsmile ไม่เกิน10% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 38% เป็นไม่เกิน 48%
  • Outlook ปี 65 บริษัทต้ังเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% YoY จากการเติบโตของ 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจตู้เติมเงิน ธุรกิจจัดส่งพัสดุ (Drop off) ธุรกิจการชำระเงิน (ตู้ ATM) และธุรกิจตู้ขายสินค้า โดยต้ังเป้าจำนวนผู้ใช้งาน 50 ล้านรายจากบริการท้ังหมดในกลุ่ม

หุ้นมีข่าว

(+) WHA (Bloomberg Consensus 3.95 บาท) เนื้อหอม ลูกค้ารายใหญ่จีน-ญี่ปุ่น-สหรัฐ-ยุโรป รุมจีบซื้อที่ดิน EEC เผยมีสัญญาในมือรอโอนกว่า 400-500 ไร่ และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกหลายร้อย ไร่ชี้ปีหน้ายอดขายที่ดินบูม หลังรัฐบาลไทยเปิดประเทศอ้าแขนรับต่างชาติ พร้อมคง EBITDA เกิน 40% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PACO (Bloomberg Consensus – บาท) ส่งสัญญาณมีลุ้นคว้าโปรเจ็กต์ใหญ่ คาดชัดเจนภายในไตรมาส 1/65 ล่าสุดกวาดกำไรไตรมาส 3/64 ที่ 32 ล้านบาท พุ่งขึ้น 50% แย้มปีหน้าธุรกิจสดใส จ่อรับรู้รายได้ OEM หลังคว้าสัญญาจากผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก 800 ล้านบาท พร้อมกดปุ่มเดินเครื่องโรงงานใหม่ต้นปี 65 ปั๊มกำลังผลิตเพิ่ม 30% (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) ADB (Bloomberg Consensus – บาท) อ้าแขนรับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ “เอดีบี ไบโอ” ผลิตและจำหน่ายสินค้าทางชีวภาพ ด้านผู้บริหารเกาะติดราคาวัตถุดิบ บริหารต้นทุน หวังมาร์จิ้นพองโต พร้อมส่งสัญญาณปี 65 รายได้โตต่อ 20% จากปีนี้คาดยอดเข้าเป้าโชว์ 9 เดือน บุ๊กกำไรเข้ากระเป๋า 77.96 ล้านบาท ฟากบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASW (Bloomberg Consensus – บาท) “แอสเซทไวส์” ปลื้ม “เคฟ ทียู” มูลค่า 1,800 ล้าน บาท กระแสตอบรับดีเกินคาด กวาดยอดขายได้มากกว่า 90% ยอดโอนรับรู้รายได้ทะลุเป้า หนุนผลงานไตรมาส 3/64 ขณะที่ไตรมาส 4/64 จ่อโอน “โมดิซ สุขุมวิท 50” มูลค่า 2,100 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 7,600 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

 

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 10 พ.ย.ประชุม กนง.ครั้งที่ 7/2564
  • สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท.ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 15-16 พ.ย.ประชุมครม.สัญจร จ.กระบี่
  • 15 พ.ย. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP 3Q64 กำหนดวันสุดท้ายส่งงบ 3Q64
  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นาเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 10 พ.ย. จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.

สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคการค้าส่งเดือนก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA

  • 12 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.
  • 15 พ.ย.จีนรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.

สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟด นิวยอร์ก

  • 16 พ.ย. อียูรายงาน GDP3Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2)

    สหรัฐเปิดเผยยอดครับลีกเดือน ต.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน พ.ย.

- Advertisement -