ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index ยังคงแกว่งตัว Sideways ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงเหลือ 6.3 หมื่นลบ. โดยดัชนีปิดบวกเล็กน้อย 1.97 จุด สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 595 ลบ. และ 245 ลบ. ตามลำดับ (ส่วนสถานะใน Index Futures ยังไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index จะยังแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,625 1,638 จุด โดยคาดกลุ่มเทคโนโลยีจะ Outperform ตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กลุ่มดังกล่าวไม่ได้เป็นสัดส่วนใหญ่ของ SET Index ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดยังทรงตัวหลังราคาน้ำมันดิบยังนิ่ง ส่วนกลุ่มธนาคารคาดยังทยอยไต่ระดับขึ้นได้ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้น ขณะที่ผลประกอบการ 3Q21 ของบริษัทจดทะเบียนเท่าที่ประกาศออกมา โดยรวมยังค่อนข้างกระจัดกระจาย โดยกลุ่มที่แข็งแรงกว่าคาดชัดเจนมีเพียงกลุ่มการแพทย์และขนส่งสินค้าที่ออกมาดีกว่าคาดอย่างชัดเจน โดยต้องมองข้ามไปยังการฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้นไป หลังจากกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศ ระยะสั้นยังเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง ส่วนจังหวะดัชนีอ่อนตัวลงทดสอบ 1,600 +- จุด มองเป็นโอกาสทยอยสะสมเพิ่มสําหรับกลุ่ม Value และ Reopening Play โดยเฉพาะกลุ่มที่ยัง Laggard SET Index เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมี COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อาหาร อสังหาฯ รับเหมา ท่องเที่ยว

กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q21 แข็งแรง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // ยังลงทุนในหุ้น Value และ Reopening Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ย.: CHG, FSMART, GPSC, JWD, KCE

หุ้นเด่นวันนี้: TACC

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท
  • กำไร 3Q21 +4% Q-Q, +20% Y-Y ดีกว่าคาด แม้จะถูกกระทบทางอ้อมจาก COVID 19 และ Lockdown แต่สินค้าของ TACC ถูกกระทบน้อยกว่าคนอื่น และยังบริหารจัดการต้นทุนได้ดีเยี่ยม
  • แนวโน้ม 4Q21 จะเร่งตัวขึ้นทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและ Character หลังลูกค้าเริ่มกลับมาทำโปรโมชั่นการตลาดอีกครั้ง ส่วนระยะยาวยังได้แรงหนุนจากการเติบโตไปในกัมพูชาและลาวตาม 7-11 รวมถึงการขยายฐานลูกค้า Non-7-11
  • แนวรับ 7.70-7.80 บาท แนวด้าน 8.20-8.25 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคบางๆ US$ 175 ล้าน โดยออกจากไต้หวัน US$ 345 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$ 213 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนยังผสมผสานและเม็ดเงินเบาบาง ยกเว้นเวียดนามที่ไหลออกหนาแน่น US$ 53 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังเบาบาง แต่ค่อนไปในทิศทางไหลออกจาก Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) IIG กำไร 3Q21 +16% Q-Q, +58% Y-Y ดีตามคาดจากทั้งรายได้และ Margin ที่ขยายตัว และ Demand ลงทุนระบบ Cloud ERP และ CRM ที่แข็งแกร่ง แนวโน้ม 4Q21 คาดทํา New High หนุนทั้งปี +39% Y-Y ส่วนปี 2022 คาดโดต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจเดิมและแรงหนุนจากการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ในปีนี้คาดกำไรปี 2022 +37% Y-Y แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นเร็วจนเต็มมูลค่าเทียบกับราคาเป้าหมาย 41 บาท จึงลดคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยธุรกิจโรงพิมพ์กดดันระยะสั้น

(+) TKS กำไรปกติ 3Q21 -34% Q-Q, +8% Y-Y จาก Lockdown แต่คาดกลับมาเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q21 จาก SYNEX ที่เข้า High Season และดีต่อเนื่องในปีหน้า เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22 บาท ตาม SYNEX ที่ปรับขึ้นก่อนหน้า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) M กำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q21 ที่ขาดทุน 257 ลบ. ไปแล้ว และจะพลิกมีกำไรแข็งแกร่งใน 4Q21 ตาม SSSG ที่ฟื้นตัวหลังคลาย Lockdown เป็นปกติแล้ว และเราเห็น Upside ต่อกำไรปี 2021-2022 และราคาเป้าหมายที่ 62 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) SAPPE กำไร 3Q21 น่าประทับใจ +12% Q-Q, +7% Y-Y โดยรายได้และกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ หนุนจากรายได้ส่งออกและสินค้าใหม่ ขณะที่ Margin ยังดีและบริหารสายเรือได้ดี แนวโน้ม 4Q21 จะอ่อนตัวลงตามฤดูกาล แต่ยอดขายในประเทศคาดกลับมาฟื้นตัว คงราคาเป้าหมาย 37 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) CPALL กำไร 3Q21 -32 Q-Q, -63% Y-Y ต่ำกว่าตลาดคาด 36% จากค่าใช้จ่ายที่สูง และ Lotus’s ที่แย่มีเพียง MAKRO ที่แข็งแรง แต่ชดเชยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คาดกำไรฟื้นตัวใน 4Q21-2022 หลังคลาย Lockdown หมดแล้ว และระยะยาวยังเติบโตต่อเนื่องทั้งไทยและขยายตลาดต่างประเทศ ยังคงราคาเป้าหมาย 82 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) CRC ประกาศผลขาดทุน 3Q21 2.2 พันลบ. โดยถูกกระทบจาก Lockdown ทั้งไทยและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม คาดผลการดำเนินงานทยอยฟื้นตัวใน 4Q21-2022 ตามการ Reopening ยังคงราคาเป้าหมาย 40 บาทแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(-) ตลาดดาวโจนส์ลดลง 158.71 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 35,921.23 จุด หลังเปิดเผยผลประกอบการกดดันจากการปรับลงของหุ้นหุ้นวอลท์ดิสนีย์ 4Q21 ต่ำกว่าคาด

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ทั้งราคาแร่เหล็กและทองแดง รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นหนุนจากดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 81.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟื้นตัวหลังปรับลงในช่วงก่อนหน้า รวมถึงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์หรือ 0.84% ปิดที่ระดับ 1,863.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 975.99 / +0.58

- Advertisement -