ทิศทางตลาดตลาดหุ้นวันนี้

ยังอยู่ในช่วงไซด์เวย์

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์เทรดไซด์เวย์ … หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ประคองตัวได้เทรดกรอบแคบๆ เกือบทั้งวัน (ดีกว่าที่คาดเล็กน้อย) แม้ว่าตลาดหุ้นโลกเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่พุ่งแรง … สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมยังคงเป็นกลางตลาดหุ้นสหรัฐฯไม่มีข่าวหรือตัวเลขสำคัญใดๆ ออกมาในวันที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯปิดทำการในวันทหารผ่านศึก ขณะที่นักลงทุนดูเหมือนรับรู้ประเด็นเงินเฟ้อที่พุ่งแรงในระยะสั้นไปพอสมควรแล้ว สะท้อนจากสัญญา Fed Fund Future ที่ล่าสุดให้น้ำหนักว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. หรือเดือน ก.ค. 2565 (% เกิดพอๆ กันในเดือนใดเดือนหนึ่ง) ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ตลาดเคยมองก่อนหน้านี้อย่างมาก เราจึงมองว่าประเด็นดอกเบี้ยเฟดจะขึ้นเร็วกว่าเดิมได้อยู่ในตลาดหุ้นไปแล้ว และไม่น่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดมากนักในระยะถัดไป ทั้งนี้แรงผลักขึ้นต่อ SET Index น่าจะอยู่ที่ฟันด์โฟลว์เป็นสำคัญ ซึ่งเรามองว่ายังมีโอกาสเห็นต่างชาติเข้าซื้อสุทธิในช่วงที่เหลือของปี 2564 โดยเมื่อค่าเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยิลด์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งก็จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อโฟลว์ต่างชาติ … ด้านปัจจัยภายในประเทศตลาดกำลังติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2554 ที่จะออกในวันที่ 15 พ.ย. นี้นักเศรษฐศาสตร์ KGI มอง +0.1% YoY ตามผลกระทบจาก COVID-19 lockdown ขณะที่เช้าวันนี้ ศ.ค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 7,305 ราย เสียชีวิต 51 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 7,900 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร LEO, STEC*, BTS*

  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.8 บาท / แนวต้าน 12.6 13.2 บาท (Trailing stop 11.5 บาท) รายงานกําไร 3Q64 = 52 ล้านบาท (+22% QoQ, +253% YoY) ทําจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 ยังทรงตัว QoQ YoY แม้จะเป็น Low season ของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านเรือคอนเทนเนอร์ แต่คาดได้แรงหนุนจาก 1) รายได้บางส่วนที่เลื่อนการรับรู้จาก 3Q64 มาที่ 4Q64 ซึ่งเป็นผลจากมาตรฐานทางบัญชี 1) การรับรู้รายได้จากการขนส่งสินค้า E-commerce จีน-ไทย (High season ของ E-commerce) จากการเป็นพันธมิตรกับ China post 3) กำไร 9M64 คิดเป็น 80% ของประมาณการฯ ทั้งปี มีโอกาสปรับประมาณการขึ้นหลังการประชุมนักวิเคราะห์ และลุ้น Upside จาก M&A ปลายปีนี้
  • STEC* (เป้า Consensus 16.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.3 บาท / แนวต้าน 13.6-14.0 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14.5 บาท (Stop loss 13.1 บาท) 2) ประเมิน Catalyst บวก i) ปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานกำลังจะปลดล็อก โดยคาดวันศุกร์นี้ที่ประชุมศบค. จะพิจารณาแนวทางนำเข้าแรงงานต่างด้าว ii) ประเมินงานประมูลโครงการภาครัฐจะเริ่มกลับมาเร่งตัวในปีหน้า โดยล่าสุดรฟม. เตรียมเปิดขายซองประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้วงเงินรวม 7.8 หมื่นล้านบาทในเดือนพ. ย. นี้ 3) Consensus คาดกําไรปี 2565 โต +125% YoY เป็น 1.1 พันล้านบาท Forward PE คาดลดลงเป็น 18.3 เท่าจาก 35.9 เท่าในปีนี้
  • BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.55 บาท / แนวต้าน 9.8-10.0 บาท (Stop loss 9.5 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจหลัก (รถไฟฟ้า) และบ.ลูก (VGI, KEX) ใน 2064/65 (ก.ค. -ก.ย. ) เป็นจุดต่ำสุด และคาดจะฟื้นตัวใน 3Q64 / 65 (ต.ค. -ธ.ค. ) หลังการเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย. 3) คาดผลการดำเนินงานปีหน้ามี Upside จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ (สินเชื่อบุคคล) กับพันธมิตรอย่าง i) กลุ่ม JMART และ ii) AEONT, HUMAN ขณะที่ราคาหุ้น Laggard กลุ่มพันธมิตร โดยเฉพาะกลุ่ม JMART

หุ้นมีข่าว

(+) รับเหมาถึงคิวลุยม่วงใต้ CK*-STEC* ร่วมทุกสัญญา (ทันหุ้น) รฟม. เปิดขายซองงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 6 สัญญาวงเงินรวม 7.8 หมื่นล้านบาท 11-24 พฤศจิกายนนี้ ปรับเกณฑ์ต้องผ่านคุณสมบัติเทคนิคก่อนถึงมีสิทธิ์เปิดซองราคาตัดเชือก ด้าน CK*-STEC* ประกาศเข้าชิงทุกสัญญา มั่นใจรักษามาร์จิ้นขึ้นในระดับน่าพอใจ ย้ำชัดไม่ขาดแรงงาน ด้านคลังแย้มใกล้ปลดล็อกประมูลสายสีส้มตะวันตกอาจเปิดขายของได้ธันวาคมนี้

(+) SABUY ปล่อยกู้ แปลงตู้เป็นทุน (ข่าวหุ้น) SABUY* เปิดตัวอ“SABUYCAP” (สบาย-แคป) ให้บริการสินเชื่อกับกลุ่มลูกค้าใน Ecosystem นำร่องผลิตภัณฑ์แรก “แปลงตู้เป็นทุน” สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการเติมเงินเติมสบายพลัส ดอกเบี้ยไม่เกิน 1.25% ต่อเดือน ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อปีหน้า 2,000-3,000 ล้านบาท

(+) OSP* ลั่น CBD มาปีหน้ารายได้-กำไรโตสองหลัก (ทันหุ้น) OSP* เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสาร CBD ทั้งเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในไตรมาส 2 ปีหน้า ดันรายได้-กำไรโตเลขสองหลัก วางงบลงทุน 1.5 พันล้านบาท พัฒนากระบวนการผลิต ตั้งเป้าปรับลดต้นทุน 5 พันล้านบาทใน 5-7 ปี ปลื้มยอด 9 เดือนแตะ 1.9 หมื่นล้านบาท ไตรมาสสุดท้ายขยายตัวรับเปิดประเทศ-คลายล็อกดาวน์

(+) RS* ปีหน้าเห็นสินค้ากัญชง ดันบริษัทลูกเร่งเข้าตลาด (ทันหุ้น) RS* กางแผนปี 2565 รายได้เติบโตเด่น เล็งออกผลิตภัณฑ์กัญชงอีก 7 SKUs และอาหารสัตว์เลี้ยงระดับ Premium Mass จำนวนมาก คาดทยอยจำหน่ายกว่า 50 รายการ พร้อมเดินหน้าส่ง “เชฎฐ์เอเชีย” เข้าตลาด มองไตรมาส 4/2564 เห็นสัญญาณการฟื้นตัวแบบ U-Shape คงเป้ารายได้ปี 2564 และ 4-4.4 พันล้านบาท

(+) ABM ประกาศเป้าปีหน้ายอดขายพุ่ง 2.5 พันล้าน เดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ (ข่าวหุ้น)“เอเชียไบโอแมส” ตั้งเป้ายอดขายปี 65 แตะ 2.5 พันล้านบาท จากการขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม ขณะที่ปีนี้ยังมั่นใจยอดขายตามเป้า 1.8 พันล้านบาท เผยแผน 5 ปี พุ่งสู่ 5 พันล้านบาทภายในปี 69

หุ้นที่เคยแนะนําก่อนหน้า

  • VGI* (เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท) แนวรับ 6.9 บาท / แนวต้าน 7.2 บาท หากผ่านได้ แนะนำ  “Let profit run” (Trailing stop 6.8 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.6 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.8 บาท)
  • PSH* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 13.3 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 62.5 บาท) แนวรับ 55.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 54.5 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) แนวรับ 64.5 บาท / แนวต้าน 66.5-68 บาท (Trailing stop 64.5 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนวรับ 3.4 บาท / แนวต้าน 3.5-3.6 บาท (Trailing stop 3.36 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 20.8 บาท / แนวต้านแรก 21.4-22 บาท (Stop loss 20.3 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 29.5-31.5 บาท (Stop loss 28 บาท)
  • BANPU* (เป้าพื้นฐาน 13 บาท) แนวรับ 0.8 บาท / แนวต้าน 11.3-11.6 บาท (Stop loss 10.5 บาท)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน “Under review”) แนวรับ 131 บาท / แนวต้าน 135-138 บาท (Stop loss 126 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 15.4 บาท) แนวรับ 11.7 บาท / แนวต้าน 12.0 – 12.4 บาท (Stop loss 11.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 126 บาท / แนวต้าน 130-134 บาท (Stop loss 124 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • CENTEL* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 39 บาท รายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 803 ล้านบาทใน 3Q64 ขาดทุนมากกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาด อย่างไรก็ดี คาดผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวอย่างได้อย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นสะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวไปพอสมควรแล้ว Upside เริ่มจำกัด จึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ” )
  • COM7* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 82 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 571 ล้านบาท (+53% YoY, -3%QoQ) ดีกว่าคาด +25% จากอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด และประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 เป็น High season ยังดีต่อเนื่อง
  • IIG แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 50 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 24 ล้านบาท (+50% YoY, +17% QoQ) คาดผลการดำเนินงานยังสดใสต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า จากเทรนด์การใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำธุรกิจมากขึ้น ฝ่ายวิจัยฯ Re-rate เป้าหมาย PE ขึ้นเป็น 41.8 เท่า (+2.0 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ยในอดีต) ได้ราคาเป้าหมายใหม่เป็น 50 บาท
  • KEX แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 42.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นลบ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ปี 2564-65 ลง -37% และ -13% ตามลำดับ และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 42.5 บาท (เดิม 48.25 บาท) และปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”) คาดผลการดำเนินงาน 4Q64 ยังลดลง YoY ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังไม่รวมธุรกิจใหม่ (ส่งอาหาร) ในประมาณการฯ
  • CKP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.2 บาท รายงานกำไรจากการดำเนินงาน = 1.2 พันล้านบาท (+48% YoY, +74% QoQ) ดีกว่าคาด +25% และดีกว่า Consensus คาด +31% ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับสมมติฐาน Capacity factor ระยะยาวของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเพิ่ม ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 7.2 บาท (เดิม 7.1 บาท)
  • GFPT แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 12.8 บาท รายงานผลขาดทุน 87 ล้านบาท (-125.5% YoY, -148% QoQ) แย่กว่าคาด เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงมาก อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวจากกำลังการผลิตใหม่และ Demand เนื้อสัตว์หลังโควิด 19 คลี่คลาย แต่ฝ่ายวิจัยฯ ปรับปรุงสมมติฐานใหม่ โดยปรับลดประมาณการฯ ปี 2564-65 ลง และปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”)
  • LH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท รายงานผลกำไรจากการดำเนินงาน = 1.3 พันล้านบาท (26% YoY, -31% QoQ) แย่กว่าคาดเล็กน้อย ทั้งนี้คาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องใน 4Q64 อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ปรับปรุงประมาณการฯ โดยปรับลดประมาณการฯ ปี 2564-65 ลง -5% และ -3% ตามลำดับ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 9.8 บาท (เดิม 99 บาท)
  • BH* แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 130 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวกฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ขึ้นจาก 1) ปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น 1) ปรับสมมติฐานค่าใช้จ่าย SG&A ลง ยังคงคาดการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปีหน้าจากการเปิดประเทศ อย่างไรก็ดี Upside จํากัด จึงคงคําแนะนำ “ขาย”
  • SMPC แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 12.4 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองยังเป็นบวกจาก Backlog ถังก๊าซที่ยังแข็งแกร่ง โดยฝ่ายวิจัยฯ ปรับปรุงประมาณการฯ ตามสมมติฐานใหม่ โดยปรับประมาณการฯ ปี 2564 ขึ้น +11% แต่ปรับลดประมาณการฯ ปี 2565 ลงเล็กน้อย -2% แนะนำเพียง “ถือ” เนื่องจาก Upside จํากัด

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หลักทรัพย์ /2. เป้าพื้นฐานหมายถึงราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -