บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Precious Shipping (PSL) รอบใหม่ใกล้จะเริ่มแล้ว

Results Review

ประเด็นการลงทุน

ราคาหุ้นถอยลงมาอยู่ในจุดน่าสนใจทยอยสะสมรอบใหม่อีกครั้ง เพราะเรามองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 จะยังอยู่ในเกณฑ์ดี ล่าสุด BDI ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยไตรมาสก่อน 15% ขณะที่จีนกำลังปรับตัวกับเรื่องๆ ใหม่ และคาดจะกลับสู่เส้นทางปกติใน 2Q65 อย่างไรก็ดี P/BV กลุ่มเรือขนาดเดียวกันได้ปรับลดลงมาซื้อขาย 1.80 เท่าแล้ว จากก่อนหน้า 2.5-2.7 เท่า ทำให้แม้เราจะปรับประมาณการกำไรปี 2564/65 ขึ้น แต่ราคาเหมาะสมใหม่ปี 2565 ถูกทอนลงมาจาก valuation กลุ่มที่ลดลงเป็น 18.60 บาท เหลือ upside 13% คงคำแนะนำ ซื้อ

กําไรไตรมาส 3 ดีกว่าตลาดคาด 7%

PSL รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 แข็งแกร่งที่ 1.5 พันลบ. +81.7% QoQ พลิกจากขาดทุนปีก่อนที่ 22 ลบ. ปัจจัยหลักคือค่าระวางเรือเทกอง ภาพรวมเป็นขาขึ้นระหว่างไตรมาส โดยดัชนี BDI +34.2% QoQ ส่วนดัชนีกลุ่มเรือขนาดเล็กลงมา BSI +34.2% QoQ และ BHSI +43.0% QoQ แม้ว่าต้นทุนเดินเรือจะเพิ่ม +1.8% QoQ เป็น 5,136 เหรียญ /ลำ/วัน จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้มีค่าใช้จ่ายจัดการเพิ่มขึ้นระยะสั้นก็ตาม แต่ด้วยค่าระวางที่สูง 24,722 เหรียญ/ลำ/วัน ขณะที่มีเรือเพียง 15% ที่ค่าระวางถูกตรึงไว้ในสัญญาระยะยาว (ที่เหลืออยู่ในตลาด spot) นั้นจึงทำให้ PSL ได้ประโยชน์เต็มๆ จากสถานการณ์นี้

ให้เวลา BDI ปรับฐานสักนิดก่อนเดินหน้าต่อใน 2Q65

ผู้บริหารมองว่าระวางอาจจะแผ่วต่อช่วง 4Q64-1Q65 เพราะเป็นช่วงจีนกำลังปรับตัวกับกฎระเบียบใหม่ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากปัญหาหนี้ Evergrande แต่ผบห. เชื่อว่าระดับค่าระวางเรือจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อผู้เดินเรือ เพราะอุปสงค์-อุปทานอยู่ในเกณฑ์สมดุลดี การกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงดำเนินอยู่ หนุนให้อุปสงค์ในเรือเทกองคาดเติบโต +4.6% เหนือกว่าอุปทานเรือที่จะเข้าสู่ตลาดราว +3.4% (ที่มา Clarksons) ยิ่งไปกว่านั้นเราพบว่ายอดสั่งต่อเรือใน segment ของ PSL (Handysize และ Supramax / Ultramax) ก็มีเพียง 2.9% และ 5.9% ของกองเรือทั่วโลก ตามลำดับ และมีเรืออายุเกินกว่า 20 ปี ควรปลดระวางถึง 13.6% และ 9.5% ของกองเรือทั่วโลก ตามลำดับอีกด้วย ดังนั้นจึงเชื่อว่าผลประกอบการของ PSL ใน 12 เดือนข้างหน้าจึงดูจะไม่น่าห่วงนัก ปัจจุบัน BDI ไตรมาส 4 เฉลี่ยอยู่ที่ 4,296 จุด ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยไตรมาส 3 ราว 15%

ใช้ 2 ไตรมาสนี้ในการทยอยสะสม “ซื้อ”

หลังจากสัมผัสราคาเหมาะสมของเราก่อนหน้า (26.25) ในเดือน ส.ค. ราคาหุ้นปรับตัวลงมา 35% ตามทิศทางของดัชนี BDI ซึ่งสะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้เรือรายใหญ่ของโลก ซึ่งเราเชื่อว่ากำลังเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ขณะที่กำไร 9M64 คิดเป็น 96% ของประมาณการ เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 64/65 ขึ้น 40.3%/38.9% ตามลำดับ ให้ภาพการเติบโตปีหน้า +5.2% YoY บนฐานกำไร 3.9 พันลบ.

- Advertisement -