บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

B.Grimm Power (BGRIM.BK/BGRIM TB)*

ก้าวแรกของการลงทุนในประเทศมาเลเซีย

Event

BGRIM ประกาศว่าได้เข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นกับ reNIKOLA

Impact

การเข้าลงทุนใน reNIKOLA

BGRIM ประกาศว่าได้เข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นกับ reNIKOLA Sdn. Bhd (reNIKOLA) เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ reNIKOLA จำนวน 285,216,652 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 45% โดยผ่าน B.Grimm Malaysia ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ BGRIM ถือหุ้น 100% ทั้งนี้ สินทรัพย์ของ reNIKOLA มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 553MW ประกอบด้วย i) โรงไฟฟ้า Solar กำลังการผลิต 88MW (เปิดดำเนินการแล้ว) ii) โรงไฟฟ้า Solar กำลังการผลิต 90MW (ตั้งเป้าจะปิดดีลภายใน 1Q65) และ iii) โรงไฟฟ้า solar กำลังการผลิต 375MW (SCOD ในปี 2566) นอกจากนี้ Pimpinan Ehsan Berhad (PEB) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นมาเลเซียจะเข้ามา take over หุ้นของ B.Grimm Malaysia ใน reNIKOLA เพื่อแลกกับหุ้นของ PEB (share swap) ซึ่งหลังจากที่ทำ share swap เสร็จเรียบร้อยแล้ว B.Grimm Malaysia จะถือหุ้น 40.6% ของหุ้น PEB ทั้งหมดซึ่งเท่ากับ BGRIM เป็นเจ้าของกำลังการผลิตไฟฟ้า 163MWe ในขณะที่ PEB จะถือหุ้น 100% ของหุ้นทั้งหมดใน reNIKOLA ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ MYR367 ล้าน หรือคิดเฉพาะส่วนของ BGRIM ที่ 2,900 ล้านบาท

BGRIM จะใช้เงินสดในมือ และสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นสำหรับทำธุรกรรมนี้ ซึ่งเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 BGRIM รายงานว่ามีเงินสดในมือประมาณ 22,035 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 1.5x (ยังต่ำกว่าเพดาน debt covenant ที่ 2.0x) ดังนั้น เราจึงไม่ห่วงว่า BGRIM จะประสบปัญหาทางการเงิน เพราะมีเงินสดเต็มมือ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมนี้ยังขึ้นกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขบังคับก่อนของสัญญาที่เกี่ยวข้อง (Customary terms and conditions) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเรียบร้อยภายใน 1Q65

ตลาดไฟฟ้าในประเทศมาเลเซีย

กำลังการผลิตติดตั้งของประเทศมาเลเซียในปี 2562 อยู่ที่ 28.7MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน (46%) ก๊าซ (40%) น้ำ (13%) น้ำมัน (0.6%) และพลังงานหมุนเวียน (0.4%) ทั้งนี้ ตามรายงาน Peninsular Malaysia generation development plan 2020 (2564-2582) มาเลเซียตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 31% ภายในปี 2568 ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 6.6GW แบ่งเป็นโครงการพลังน้ำ 2.1GW hydro, Solar 1.1GW และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ อีก 3.4GW

Valuation & Action

เราใช้สมมติฐานว่า BGRIM จะรับรู้รายได้ equity income จาก reNIKOLA ใน 1Q65 โดยมีต้นทุนการลงทุนอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับโครงการอยู่ที่ 80:20 ส่วนอัตราค่าไฟฟ้าจะอยู่ในช่วง 5.8 -10 UScent / kWh เราใช้สมมติฐาน Capacity factor ที่ 16-18% ทำให้คาดว่ากำไรที่จะส่งต่อมาที่ BGRIM น่าจะอยู่ประมาณ 100 ล้านบาทในปี 2565 (178MW) และ 210 ล้านบาทในปี 2566 (เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 553MW) เราประเมินว่า IRR และ WACC จะอยู่ที่ประมาณ 8% และ 5.6% ตามลำดับ ดังนั้นจึงประเมินว่า reNIKOLA จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ BGRIM 0.80 บาท/หุ้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 60.75 บาท (ยังไม่รวมมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ reNIKOLA)

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้าและความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่

- Advertisement -