WFX นับถอยหลังรอวันเสนอขาย IPO จำนวน 142 ล้านหุ้น เข้าเป็นสมาชิกใหม่ใน SET หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ระดมทุนรองรับแผนการขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งกว่า 12,400 ตันต่อปี รองรับออเดอร์ลูกค้าตลาดต่างประเทศที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับบริษัท รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินบางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

นางสุนิต วิสุทธิโกศล กรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) แล้ว โดย WFX จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 142 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 30.59% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUB ตามสัดส่วนการถือหุ้น TRUBB (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 11,360,000  หุ้น  เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 14,200,000 หุ้น และเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 116,440,000 หุ้น

สำหรับ WFX ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืด ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้ง และเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด ตั้งอยู่ในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มีสัดส่วนจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก ประมาณ 98% มีการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพของสินค้า ส่งมอบสินค้าตรงเวลา และให้บริการที่น่าประทับใจ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX กล่าวว่า การเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนไปใช้ในการขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้ง 12,400 ตันต่อปี รองรับออเดอร์ลูกค้าในตลาดต่างประเทศที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับบริษัท รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินบางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

ด้านผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาของ WFX ในปี 2561-63 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,860.92 ล้านบาท 2,045.11 ล้านบาท และ 2,408.66 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิจำนวน 19.22 ล้านบาท 7.72 ล้านบาท และ 57.81 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 1.03 ร้อยละ 0.38 และร้อยละ 2.40 ตามลำดับ และงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 1,622  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 95.34 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.88

ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จำนวน 48.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 104.47 เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิตในช่วงต้นปี 2564 ทำให้สามารถผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนกว่า 2,200 ตัน ทำให้กำไรสูงขึ้น นอกจากนั้น อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการที่บริษัทเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายชนิดมากขึ้น ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรที่สูงขึ้น อีกทั้งบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้ากลุ่ม End User เพิ่มขึ้น ซึ่งการจำหน่ายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้า End User จะมีอัตรากำไรที่สูงกว่ากลุ่มลูกค้าประเภท Distributor ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตสินค้า มีส่วนช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของบริษัทลดต่ำลง ทำให้เกิดการประหยัดทางขนาด (Economy of Scale) จึงทำให้กำไรและอัตรากำไรในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

**************************************

- Advertisement -