บล.ทรีนีตี้:
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ – LH คาด 4Q64 ฟื้นตัว QoQ ทั้งยอดขายและยอดโอน
  • LH รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 1.03 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 30.1% QoQ และ 36.2% YoY
  • รายงานรายได้จากการโอนใน 3Q64 ที่ 6.52 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 23.0% QoQ และ 14.4% YoY  โดยที่เป็นสัดส่วนจากโครงการแนวราบที่ 6.07 พันล้านบาท และคอนโดที 453 ล้านบาท
  • ยอด Presales 9M64 อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 3.6% YoY
  • ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 2565 ที่ 7.46 พันล้านบาท และ 7.9 พันล้านบาท
  • ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท

3Q64 Earnings Review

  • LH รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 1.03 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 30.1% QoQ และ 36.2% YoY
  • รายได้จากการโอนใน 3Q64 อยู่ที่ 6.52 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 23.0% QoQ และ 14.4% YoY โดยที่เป็นสัดส่วนจากโครงการแนวราบที่ 6.07 พันล้านบาท และคอนโดที่ 453 ล้านบาท โดยยอดโอนใน 3Q64 ปรับตัวลดลงในทุกกลุ่มสินค้า เนื่องมาจากผลกระทบจากการ Lockdown ที่ส่งผลให้มียอด Visit โครงการที่ลดลง
  • ระดับ Gross Margin ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 32.1% ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q64 ที่ระดับ 31.6%
  • กำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมอยู่ที่ 466 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 27.7% QoQ และ 32% YoY จากผลประกอบการอ่อนตัวลงของ HMPRO และ QH เป็นหลัก
  • LH รายงานยอด Presales 3Q64 ที่ 6.58 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 15.8% QoQ และ 14.3% YoY โดยกลุ่มทาวน์โฮมมียอด Presales ปรับตัวสูงขึ้น 3.8% QoQ และ 35.0% YoY เนื่องจากในช่วงปลาย 3Q64 มีการเปิดตัวโครงการ Indy Bangna Ramkhamhaeng 2 มูลค่า 1.9 พันล้านบาทที่ทำยอดขายได้ดี ส่งผลให้เป็นกลุ่มสินค้าเดียวที่มีการเติบโตในช่วง 3Q64
  • ยอด Presales รวม 9M64 อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 3.6% YoY ซึ่งถือว่ายังทำได้ดีแม้ว่าในช่วง 3Q64 จะได้รับผลกระทบจากการ Lockdown ก็ตาม

ยังคงคาดการณ์กำไรและยอดโอนปี 2564-2565

รายได้จากยอดโอนรวมใน 9M64 อยู่ที่ 2.21 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 11.2% YoY และหากนับรวมกับยอด Backlog ที่รอโอนใน 4Q64 มูลค่า 3.86 พันล้านบาท จะนับเป็น 90% ของที่เราคาดการณ์ยอดโอนที่ 2.9 หมื่นล้านบาท และเรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ที่ 7.46 พันล้านบาท ในขณะที่ปี 2565 เราคาดว่าจะมีรายได้จาการโอนที่ 3.13 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.3% YoY และคาดกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 7.98 พันล้านบาท โต 7.0% YoY

แนวราบยอดขายดี ไม่เน้นลดราคา ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท

เราคาดว่าระดับ Gross Margin ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 31-32% ในขณะที่ยอดขายจากโครงการแนวราบยังคงเป็นกำลังหลักในการหนุนการเติบโต เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท (จาก 9.45 บาท) จากการอิงผลประกอบการปี 2565

- Advertisement -