SMD โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 มีรายได้จากการขายและบริการ 699.64 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 190.76 ล้านบาท ดันผลงาน 9 เดือนแรก มีรายได้จากการขายและบริการรวม 1,184.65 ล้านบาท เติบโต 174.01% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 264.82 ล้านบาท เติบโต 564.99% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเครื่องมือแพทย์เพิ่มมากขึ้น เผยปัจจุบันมี Backlog เพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้กว่า 95% ทั้งมั่นใจความต้องการเครื่องมือแพทย์ยังคงมีสูงตามการเบิกจ่ายของงบประมาณภาครัฐที่ให้ความสำคัญทางด้านการแพทย์ที่ให้ความสำคัญกับครุภัณฑ์การแพทย์ที่เกี่ยวข้องการการช่วยชีวิตในภาวะวิกฤติ

 

ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 190.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,634.67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.00 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 699.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390.93% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 142.51 ล้านบาท ผลักดันให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 1,184.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 432.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 264.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 564.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.82 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New high) นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

สำหรับปัจจัยการเติบโตหลักมาจากการทยอยรับรู้งานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ล่าสุดได้ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง มูลค่ารวม 131.30 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย แบ่งเป็นการส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มูลนิธิโรงพยาบาลเครือบางปะกอก และโรงพยาบาลในเครือปิยะเวท มูลค่า 86.90 ล้านบาท และส่งมอบครุภัณฑ์การแพทย์แก่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 มูลค่า 44.40 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมียอดคำสั่งซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED, ผลิตภัณฑ์ Rapid Test Kit หรือ ATK ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้อง ICU, Semi ICU และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ SMD เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยมียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทั้งภาครัฐ เอกชน และนิติบุคคล รวมถึงมีรายได้เสริมจากธุรกิจเครื่องมือแพทย์ให้เช่า

“จากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี  ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ ถือเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทได้รับปัจจัยหนุนมาจากการความต้องการสินค้าเครื่องมือแพทย์เพิ่มมากขึ้น ตามความจำเป็นต่อการรักษาและใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดจากสถานการณ์โควิด-19 จากกลุ่มภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงกลุ่มนิติบุคคลต่างๆ” ดร.วิโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้กว่า 95% ของมูลค่างานทั้งหมด โดยมองว่า ความต้องการเครื่องมือแพทย์ยังคงมีสูงตามการเบิกจ่ายของงบประมาณภาครัฐที่ให้ความสำคัญทางด้านการแพทย์ สะท้อนจากงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขที่ยังให้ความสำคัญกับครุภัณฑ์การแพทย์ที่เกี่ยวข้องการการช่วยชีวิตในภาวะวิกฤติ

****************************

- Advertisement -