TEAMG ประกาศกำไรงวดไตรมา 3/64 โต 82% จากไตรมาสก่อน ระบุมาจากการรับงานและผลิตงานเพิ่ม ทั้งยังควบคุมการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษารายได้ให้เติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนแผนงานช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดยังคงฟื้นตัวได้ดี จากงานในมือที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมปรับแผนลดสัดส่วนการรับงานบริหารงานในโครงการต่างประเทศลดลง ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระบุทำให้ประสบความลำบากในการรับงาน

 

ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 33.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 82% เทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทมีการผลิตงานที่ได้รับมาใหม่ช่วงต้นปีได้มากขึ้น การบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ปรับการบริหารงานให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์ในปัจจุบันและควบคุมงานก่อสร้างได้ตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมงวดไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 440.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการรวม 434.12 ล้านบาท และมีรายได้อื่นอยู่ที่ 6.11 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการส่วนใหญ่ยังคงมาจากงานโครงการภาครัฐ ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 291.03 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการรับงานใหม่เพิ่มเข้ามาและสามารถผลิตงานได้เพิ่มมากขึ้น  รวมถึงสามารถบริหารและดำเนินการงานก่อสร้างได้ตามเป้าที่วางไว้  แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดไซต์งานก่อสร้างตามมาตรการการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐ ส่งผลให้รายได้จากโครงการเอกชนลดลง โดยมีรายได้อยู่ที่ 112 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ จากการผ่อนคลายมาตรการการล็อคดาวน์ในประเทศลง

ส่วนของรายได้จากการให้บริหารงานในโครงการต่างประเทศนั้น ได้ปรับลดลงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ประสบความลำบากในการรับงานในโครงการต่างประเทศ แต่เนื่องจากบริษัทเริ่มทยอยรับงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อนเข้ามาใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่งผลให้มีรายได้จากการให้บริการงานธุรกิจเกี่ยวเนื่องปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น  26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ในภาพรายได้ในภาพรวมของบริษัทในไตรมาสนี้ สามารถรักษาการเติบโตไว้ได้

สำหรับแผนงานนช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงทยอยรับรู้รายได้ตามงานในมือที่มีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถรถรับงานใหม่เพิ่มเข้ามาได้ โดยงานส่วนใหญ่ยังคงมาจากโครงการภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่โครงการในส่วนของภาคเอกชนน่าจะเริ่มฟื้นตัว และคาดว่าจะรักษารายได้การเติบโตในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง จากงานในมือที่เพิ่มขึ้น และจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ

**********************************

- Advertisement -