“ไบเดน-สี จิ้นผิง” หารือครั้งประวัติศาสตร์

สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเครื่องไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อขายโดยปิดบวกประมาณ 5 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และสื่อสาร ส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในหุ้นที่งบออกมาดี โดยหุ้น TRUE +8.99% DTAC +4.20% SVI +9.70% ประกอบกับการรายงาน GDP 3Q64 ของไทยท่ีหดตัวน้อยกว่าตลาดคาด ช่วยทำให้ตลาดหุ้นไม่ตอบสนองในเชิงลบ โดยงบการเงินไตรมาส 3 ที่ทยอยประกาศจะส้ินสุดในช่วงเช้าก่อนเปิดตลาดวันท่ี 16 พ.ย. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,638.73 จุด +4.79 จุด +0.29% มูลค่าการซื้อขาย 69,470 ลบ.ต่างชาติ -436.95 ลบ. TFEX +3,799 สัญญา ตราสารหนี้ +996.03 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดท่ี 80.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าและมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศ

+ คณะบริหารภายใต้การนาของปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียม จากญี่ปุ่นในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้าใหม่กับบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐ

+ BOJ คาดการณ์ว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะไม่ส่งผลกระทบในระดับโลก เนื่องจาก จีนไม่ได้ก่อหนี้ในต่างประเทศมากนัก

+ ปธน.สหรัฐลงนามบังคับใช้กฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานหลายล้านตำแหน่ง และผลักดันให้สหรัฐแข่งขันกับจีนได้

+จีนเปิดเผยว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าสู่จีนในช่วง 10M64 พุ่งข้ึน 17.8%YoY แตะ 1.4201 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

+สภาพัฒน์รายงาน GDP 3Q64 ติดลบ 0.3% ลดลงจาก ขยายตัว 7.6% ใน 2Q64 หรือ -1.1% เมื่อปรับผลของฤดูกาล จากใช้มาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ GDP 9M64 +1.3% คาดปี 64 GDP +1.2% ส่วนปี 65 คาดขยายตัว 3.5-4.5%

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ลดลงต่ำกว่า 5 พันราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 5,947ราย มีผู้เสียชีวิต 62 ราย รักษาหาย 7,943ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด -12.86 จุด -0.04% เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีการพุ่งข้ึนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุด นลท.จับตารายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ รวมทั้งผลประกอบการ 3Q64 ของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้

– WHO กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มบูสเตอร์และเข็มแรกให้กับประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาว่าเป็นสิ่งที่น่าอัปยศ

– นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากวุฒิสภาสหรัฐได้เรียกร้องให้ระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันก้าวเข้าสู่เทศกาลวันหยุด

– EU ระบุว่า การกลายพันธ์ุใหม่ของโคโรนาไวรัสอาจทำให้การฟื้นตัวด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุโรปหยุดชะงัก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ียังปรับตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ใน ประเทศลดลงต่ำกว่าระดับ 6 พันรายต่อวัน นักลงทุนยังติดตามการประชุม Virtual meeting ระหว่างปธน.โจ ไบ เดน-ปธน.สี จิ้นผิง เช้าวันนี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1,630-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH
  • MSCI Global Small Cap Indexes หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN

หุ้นรายงานพิเศษ

SMD (ซื้อ ราคาเหมาะสม 17.50)

  • โชว์ฝีมือกำไรไตรมาส 3/2564 กระฉูด 1,634.67% แตะ 190.76 ล้านบาท จับตาผลงานโค้งท้ายโตต่องบประมาณ รัฐหนุนออเดอร์มั่นใจรายได้รวมปีน้ีเกินเป้าทะลุพันล้านบาท พร้อมรักษาฐานแบ็กล็อกไม่ให้ต่ำกว่า 300 ล้านบาท (ท่ีมาทันหุ้น)
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q64 ท่ีเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าท่ีเราคาดไว้อย่างมาก นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในไทยท่ีผู้ติดเชื้อยังทรงตัวในระดับ 5-7 พันราย เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) ORI (Bloomberg Consensus 56.13 บาท) ได้ลูกค้าสายคริปโท ชี้แห่ใช้บิทคอยน์-อีเธอเรียม-เทเทอร์ ซื้ออสังหาต่อเนื่อง สบช่องออก Utility Token ชัดเจนธันวาคมนี้ มองเป็นเทรนด์ที่ต้องมา ชี้ออสังหาไตรมาส 4/2564 คึกกำลังซื้อมาผ่อนคลาย LTV กระตุ้นกำลังซื้อทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่ม 4 โครงการ มั่นใจรายได้ 2564 ตามเป้าหมาย 14,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AKR (Bloomberg Consensus – บาท) มองปี 2565 งานใหม่ภาครัฐ-เอกชน ทยอยออกต่อเนื่องกว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดคว้างานใหม่เติมพอร์ตไม่ต่ำกว่า 10% ติดปีกขยายตลาดต่างแดน หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ประเดิมออสเตรเลีย ปี 2565 เล็งกลุ่มเอเชีย-ยุโรปเพิ่ม อวดแบ็กล็อกแน่น 700 ล้านบาท คาดรับรู้ในช่วงท่ีเหลือปีน้ีไม่ต่ากว่า 60% มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อนแน่นอน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 16.00 บาท) “ราช กรุ๊ป” เร่งใช้เงินลงทุนโค้งสุดท้ายปีนี้อีก 8.3 พันล้านบาท จ่ายซื้อหุ้นโครงการ Paiton และสหโคเจน (ชลบุรี) หรือ SCG กำลังผลิตรวม 1,054 เมกะวัตต์ในเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมจ่อปิดดีลพลังงานทดแทนอีก 1 โครงการเร็วๆนี้ ขณะที่ปี 65 เตรียมเพิ่มทุน 3 หมื่นล้านบาท ปรับโครงสร้างเงินทุนให้แข็งแกร่ง (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

(+) HENG (Bloomberg Consensus – บาท) เฮงลิสซิ่ง (HENG) วางเป้าพอร์ตสินเช่ือรวมโตปีละ 30% คาดอีก 2 ปี แตะ 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมดันกำไรนิวไฮ 3 ปีต่อเนื่อง จ่อขยายอีก 30-40 สาขา ช่วงปลายปีน้ี คุม NPL เหลือ 3% ภายในปี 66 ด้าน “กสิกรไทย” ถือหุ้นใหญ่ 10% เหนียวแน่น ล่าสุดกำไร Q3 โตแกร่ง 167.4% (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 15-16 พ.ย.ประชุมครม.สัญจร จ.กระบี่
  • 18 พ.ย. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วน
  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นำเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 16 พ.ย. อียูรายงาน GDP 3Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2)

สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน พ.ย.

  • 17 พ.ย. อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. สหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • 18 พ.ย.สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จาก เฟดฟิลาเดลเฟีย

- Advertisement -