Daily View
บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ค่อนข้างเป็นลบจาก (1) การปรับฐานลงของ Dow Jones 0.58% จากหน้าข่าวรายงานว่า ตลาดกลับมากังวลกับเงินเฟ้ออีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้สหรัฐได้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่สูงกว่า ตลาดประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าเมื่อคืนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีปรับตัวลง ซึ่งดูแล้วไม่สอดคล้องกับที่ข่าวรายงาน เราจึงเชื่อว่าการปรับฐานลงของ Dow Jones เป็นแรงทำกำไรมากกว่า แต่ก็ถือเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อการลงทุน (2) การแกว่งแดนลบของ Nikkei เช้านี้ราว 0.3% สุดท้าย (3) ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐาน 2.6% รับแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐ อาจระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของน้ำมัน ขณะเดียวกันสำนักงานพลังงานสากลเปิดเผยว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จะเป็นตัวดึงดูดให้ผู้ผลิตหันมาสนใจผลิตมากขึ้น อุตสาหกรรมที่ได้ผลกระทบเชิงลบทางตรง ได้แก่ น้ำมัน (PTT PTTEP) ส่วนได้ผลเชิงบวกเรายังมองว่ากลุ่มปั๊มน้ำมัน (OR PTG) เพิ่มจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่รัฐบาลจะเลิกแทรกแซงราคาน้ำมันหน้าปั๊ม จากการควบคุมค่าการตลาด ดังนั้นปัจจัยวันนี้ค่อนข้างเป็นลบจึงประเมิน SET แกว่งแดนลบในกรอบ 1635 – 1643
กลยุทธ์การลงทุน การปรับฐานมองเป็นโอกาสสะสมมากกว่า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในภาพใหญ่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้น ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO MC RS) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) เครื่องดื่ม (TACC)ธนาคาร (BBL KBANK SCB) สื่อ (VGI) รถไฟฟ้า (BTS BEM) ระยะสั้นแนะ MINT WHA
Stock Pick
MINT (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 38 บาท) เราคาดว่าในปี 22 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวท่ัวโลก โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย ภายหลังการคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศ ขณะที่เราได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 38 Bt จากเดิม 36 Bt สะท้อนการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจโรงแรม หลังคลาย Lock Down
WHA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 4 บาท) คาดกำไรใน 4Q21 จะโตเด่นหนุน โดยรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT มูลค่ารวมกว่า 5.5 พันล้านบาท ประกอบกับยอดโอนที่ดินที่คาดจะดีกว่าใน 3Q21 หลังนักลงทุนสามารถเดิน ทางเข้ามาในประเทศได้ และผลประกอบการของธุรกิจสาธารณูปโภคที่ยังดีต่อเนื่องตามอุปสงค์น้ำที่ยังเติบโต
