Daily View
เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานการเติบโตของมูลค่าส่งออกประจำเดือน ต.ค. ที่ +17.4%YoY ดีกว่า Bloomberg คาดเล็กน้อยที่ +16%YoY ด้านสินค้าไส้ในเป็นผลจาก (1) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (2) เคมีภัณฑ์ (3) แผงวงจรไฟฟ้า (4) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ มองหุ้นได้รับจิตวิทยาเชิงบวก ได้แก่ (AH HANA KCE PTTGC IVL SAT) ส่วนเมื่อคืนสำหรับสหรัฐ ทางประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ตัดสินใจแต่งตั้งเจอโรม พาวเวล ขึ้นเป็นประธาน FED ต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการกระทำของเจอโรม พาว เวล มักจะส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้ก่อนเสมอว่าตนจะกระทำอันใดในอนาคตม ทำให้ตลาดสามารถปรับตัวเข้าหาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานลง โดยเฉพาะ NASDAQ ที่เผชิญแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี จึงอาจเป็นปัจจัยกดดันจิตวิทยาของ SET วันนี้ ประเมินจะแกว่งในกรอบ 1640 – 1655
สำหรับ DTAC x TRUE ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ (SET) ถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท และจะทำบันทึกความตกลงเบื้องต้นแบบไม่มีผลผูกพัน โดยดีลนี้จะมีการแลกหุ้น (share swap) DTAC อัตราส่วน 1 : 24.5 หุ้นใหม่ TRUE 1 : 2.4 แต่หากไม่ประสงค์จะแปลงเป็นหุ้นบริษัท นักลงทุนสามารถขายในกระดานหรือรอราคาเสนอซื้อจาก Citrine Global ที่เสนอ BID DTAC และ TRUE ที่ราคา 47.76 บาท และ 5.09 บาท ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่แจ้งออกมาเป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นที่ไม่มีผลผูกมัด จึงเป็นไปได้ที่ยังมีโอกาส เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะราคาเสนอซื้อ ดังนั้นหากเป็นนักลงทุนที่เน้นเล่นระยะสั้น แนะทำกำไรในราคาเสนอซื้อหรือก่อนบริษัทจะควบรวมกัน สืบเนื่องจาก Upside ที่จำกัดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่หากเป็นนักลงทุนระยะยาวแนะแปลงหุ้นเป็นบริษัทใหม่เพราะการแข่งขันจะเบาบางลง, งบการตลาดมีโอกาสปรับลดลง, บริษัทใหม่จะครองส่วนแบ่งตลาดที่ 54%(เบอร์1) แซง ADVANC ในปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิมใน Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO ILM) ธนาคารพาณิชย์ (BBL) สื่อนอกบ้าน (VGI) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ปั๊มน้ำมัน (PTG) ร้านอาหาร (M) โรงแรม (MINT) เครื่องดื่ม (CBG TACC) ส่วนระยะสั้น แนะธนาคารพาณิชย์ (BBLKBANKSCB) ปัจจัยบวกจาก Yield สหรัฐปรับตัวขึ้น ส่วนการระบาด COVID-19 ใน EU มองเป็นบวกต่อ (ASIAN TU XO)
Stock Pick
KBANK(ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 174 บาท) มองว่ากำไรจะฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้น ไปจากการขยายสินเชื่อกลุ่มธุรกิจ และ SME หลังจากคลายล็อคดาวน์ รวมทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศในปีหน้า เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสูง
TU (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 25 บาท) แนวโน้ม 4Q21 คาดธุรกิจอาหารสัตว์ฟื้น และเริ่มรับรู้ผลดีลจากบริษัทที่เข้าไปลงทุน ส่วน TFM เข้าตลาดจะมีกำไรเข้า ส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 200 ลบ. และมีเงินสดอีก 1,500 ลบ. ที่ยังอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะใช้ทำอะไร
