ปัจจัยต่างประเทศ: ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 ทั้งนี้ นายพาวเวลจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในเดือนก.พ.2565 โดยเขาเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.2561 หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน อย่างไรก็ดี นายพาวเวลต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาบางรายมีแนวโน้มที่จะคัดค้านการเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดของนายพาวเวล  แต่มองว่าสุดท้ายจะผ่านวุฒิสภาไปได้ Market reaction โดยรวมจากข่าวดังกล่าวส่งผลต่อตลาดหุ้นปรับตัวโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี  อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 2% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และจากการที่นายพาวเวลได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนมองว่านางเบรนาร์ดมีจุดยืนสนับสนุนการออกกฎระเบียบควบคุมภาคธนาคารอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 0.8% สู่ระดับ 6.34 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 6.20 ล้านยูนิต แสดงถึง Demand ที่แข็งแกร่งของคนสหรัฐฯ ท่ามกลางแรงกดดันจากราคาบ้านที่พุ่งสูง, สต็อกบ้านที่ลดลง 12% สู่ระดับ 1.25 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี และการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง

ปัจจัยภายในประเทศ: ตัวเลขการค้าเดือนต.ค. 64 ตัวเลขส่งออก +17.4% และตัวเลขนำเข้า +34.6% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 0.3 พันล้านเหรียญ เรามองว่าโมเมนตัมการค้าจะยังดีต่อเนื่องไปถึงไตรมาสหนึ่งปี 65 จากการนำเข้าวัตถุดิบ ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกดังกล่าวได้หนุน sentiment บวกต่อหุ้นส่งออกอย่าง KCE และ ASIAN เป็นต้น สำหรับปีหน้าห้องค้ากสิกรไทยคาดการณ์ว่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนสูงในทิศทางแข็งค่าที่ระดับ 32.00-32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2022 ห้องค้ากสิกรไทยคาดการณ์การกลับมาเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจากการทยอยฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และค่าระวางเรือที่ชะลอลง ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนค่าเงินบาทให้กลับมาแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากโควิด ประกอบนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้นของเฟด อาจทำให้ค่าเงินบาทผันผวนในปีหน้า

ธปท. มีแผนที่จะแก้กฎหมายบริหารสินทรัพย์ เพื่อให้กล่มธุรกิจ AMCs สามารถให้บริการแก่หน่วยงานด้านการเงินของรัฐบาล และเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจ ร่างแก้กฏหมายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจจัดเก็บหนี้ เนื่องจากจะทำให้อุปทานจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ออกสู่ตลาดมากขึ้น โดย JMT และ CHAYO จะเป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก ขณะที่สินเชื่อรายย่อยทั้งหมดของ SFIs ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ที่มีหลักประกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้ BAM ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน กล่าวโดยสรุปเราคงมุมมองกลางต่อกลุ่มธุรกิจ ข่าวดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์โดย BAM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่ม เนื่องจากการฟื้นตัวของกำไรในปี 2565 และการประเมินมูลค่าราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

มุมมองตลาดหุ้น คาด SET 1645-1655 หุ้นแนะนำ GFPT, BLA, CHAYO

Top pick:  GFPT (ราคาพื้นฐาน 12.60 บาท). คาดจะได้รับ sentiment จากราคาไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง. BLA (ราคาพื้นฐาน 41.00 บาท). เราคาดว่างบ 4Q21 จะรายงานออกมาแข็งแกร่งจากการออก product ใหม่และ combined ratio ที่ต่ำลง ขณะที่ Bond yield ที่ปรับตัวขึ้นจะช่วยหนุน sentiment บวกต่อบริษัท.CHAYO (ราคาพื้นฐาน 14.80 บาท) คาดโอกาสขายสินทรัพย์ NPA จะช่วยหนุนกำไรบริษัท ขณะที่ข่าวธปท. มีแผนแก้กฎหมายให้กล่ม AMCs สามารถบริการหน่วยงานด้านการเงินของรัฐบาล คาดว่าบริษัทจะเป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ต.ค. คาด +13% YoY และ +28.7% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash ของเยอรมัน เดือน พ.ย. คาด 51 จุด (-1.9%) และของยูโรโซน คาด 53.1 จุด (-2.0% MoM) ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด 59 จุด (+1% MoM) และตัวเลข Markit Services PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด 59.1 จุด (+0.7% MoM)

วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Info business climate ของเยอรมันเดือน พ.ย. คาด 96.7 จุด (-1% MoM) ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด +2.6 แสนคน ตัวเลข New home sales ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด -2% MoM เป็น 8 แสนยูนิต ดัชนี PCE Price index เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯคาด +0.6% MoM และ +4.9% YoY ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ และ FOMC minutes

วันศุกร์ ติดตาม ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde และตัวเลข Oil rig count ของสหรัฐฯ โดยสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 461 rig (+7 rig WoW)

- Advertisement -