บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Krungthai Card (KTC.BK / KTC TB)* ปรับประมาณการเพื่อสะท้อนกลยุทธ์ใหม่ในการสร้างการเติบโต

Impact

ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับลดประมาณการกำไร, ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2565F

Impact

ปรับราคาเข้าซื้อ KTBL และบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 4Q64 

ผู้บริหารบอกว่ามีการปรับราคาและกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของ KTBL ใหม่ โดยก่อนหน้านี้ KTC ตกลงจะซื้อหุ้น 75% ของ Krung Thai Leasing จาก KTB ที่ราคาประมาณ 594 ล้านบาทคิดเป็น P/BV ที่ 0.6% ของมูลค่าทางบัญชีของ KTBL เมื่อสิ้นปี 2563) อย่างไรก็ตาม KTC ได้ทำการ write-off หนี้เสียไปบางส่วนใน 2Q64-3Q64 และมีแผนจะ write-off เพิ่มอีกประมาณ 500-600 ล้านบาท ใน 4Q64 ซึ่งค่าใช้จ่ายพิเศษส่วนนี้จะทำให้กำไรลดลงใน 4Q64 และทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลงประมาณ 11%

ปรับกลยุทธ์การเติบโตของ KTBL ใหม่

ก่อนหน้านี้ KTC ตั้งเป้าจะใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจลีสซิ่ง และสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยใช้ทรัพยากรที่อยู่ภายใต้ KTBL อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไป และทางการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงมีการจำกัดเพดานอัตราดอกเบี้ยที่คิดจากลูกค้า บริษัท จึงเปลี่ยนมาตั้งเป้าขยาย platform โดยอิงจากธนาคารแม่ (KTB) มากขึ้น ด้วยการใช้เครือข่ายสาขาธนาคารในการขยายธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะใช้ธุรกิจนี้ขยายสินเชื่อเพิ่มเติมจากการขยายสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของทางบริษัทเอง ดังนั้น จึงคาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะทำให้สินเชื่อขยายตัวประมาณ 2.5 พันล้านบาทในปี 2565 โดย 1 พันล้านบาทจะมาจากสินเชื่อ H/P และอีก 1.5 พันล้านบาทจากสินเชื่อจํานําทะเบียน

จะโตตามธนาคารแม่

เราคิดว่าการเร่ง write-off หนี้เสียของ KTBL เป็นแนวทางที่ไม่แย่เสียทีเดียว เพราะ KTC จะสามารถบันทึกรายได้จากการติดตามหนี้เสียได้เมื่อสามารถเรียกเก็บเงินจากหนี้ก้อนดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม เรายังเป็นห่วงอัตราการขยายสินเชื่อจากธุรกิจใหม่ เพราะหากบริษัทไม่สามารถขยายสินเชื่อได้หรือขยายได้ต่ำกว่าเป้าจะกลายเป็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรของ KTC  ทั้งนี้ ในการขยายสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทบอกว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มกลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงปกติที่ 30% แล้ว (จาก 18-19% ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด) เราได้ปรับสมมติฐานสินเชื่อจากธุรกิจใหม่เป็น 2 พันล้านบาทในปี 2565 (ต่ำกว่าเป้าของ KTC ที่ 2.5 พันล้านบาท) และ 4 พันล้านบาทในปี 2566 ซึ่งจะทำให้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อรวมในปี 2564/65/66 อยู่ที่ 2%/10%/12%

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564/65 ขึ้นอีกปีละ 11% ลดราคาเป้าหมายปี 2565F ลงเหลือ 69.00 บาท

เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึง 1.) อัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ลดลงเหลือ 2%/10%/12% (จากเดิม 8%/12%/15%) 2. ) credit cost ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.4%/5.9%/5.0% (จากเดิม 5.8%/5.0%/5.0%) นอกจากนี้เรายัง de-rate P/E เหลือ 24x ตามแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง ทําให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ใหม่ที่ 69 บาท (ลดลงจากเดิม 90 บาท อิงจาก P/E ที่ 28.5x) เรายังคงคำแนะนำซื้อ KTC

Risks NPLs เพิ่มขึ้นมากเกินคาด, ผลขาดทุนจาก FVTPL, และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม

- Advertisement -