ดร.พรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND 

IND ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายผลประกอบการมีลุ้นบวก   อานิสงส์โครงการใหม่ทยอยเข้าต่อเนื่อง แถมมีงานในมือกว่า 2.4 พันล้าน เสริมเขี้ยวเล็บเต็มสตรีม มั่นใจนับจากนี้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตทุกมิติ พร้อมเดินหน้าประมูลโปรเจคใหม่จากภาครัฐต่อเนื่อง เผยเตรียมรับข่าวดีทิ้งทวนส่งท้ายปี ต่อยอดงานในมือพุ่ง ดันผลงานในอนาคตเติบโตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ดร.พรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND  ผู้ให้บริการงานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ครอบคลุมงานออกแบบพร้อมก่อสร้าง, งานบริหารโครงการขนาดใหญ่และควบคุมงานก่อสร้างของภาครัฐ รวมถึงงานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาต่างๆ อาทิ งานสำรวจและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ งานออกแบบต่างๆ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 คาดว่าจะออกมาอยู่ในทิศทางบวกเมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 2,400 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างเพิ่มอีก 2-3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท  เพื่อเพิ่มศักยภาพผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาโครงการที่ IND เข้าร่วมประมูลมีโอกาสที่จะคว้างานมาได้ราว 80%

ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดที่เริ่มคลี่คลาย  ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทที่มีโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ โดยล่าสุด IND ได้รับงานโครงการออกแบบและก่อสร้างระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา กับบริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จำกัด โดยมีมูลค่าสัญญาประมาณ  2,118 ล้านบาท  จึงทำให้เชื่อว่า ผลการดำเนินงานทั้งปีจะกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่น จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 576.81 ล้านบาท

“บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้ จากงานที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยภาครัฐยังเร่งเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานออกมา ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ มากขึ้น ล่าสุดได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการจากสนามบินอู่ตะเภา สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจในศักยภาพของ IND ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 4 เชื่อว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” ดร.พรลภัส ณ ลำพูน กล่าว

*********************

- Advertisement -