Daily View

วันนี้ ศบค. จะมีประชุมเพื่อผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมหลังสถานการณ์การระบาด COVID-19 ดีขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดการติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ 6.3 พันราย (ข้อมูล ณ 25 พ.ย.) ลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดที่เคยพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นราย เบื้องต้นมีรายงานออกมาว่าจะมีการพิจารณาปรับลดพื้นที่โซนสีมิให้มีควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ขณะเดียวกันทางกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอต่อที่ประชุมให้มีการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้โดยไม่ต้องกักตัว หากมีเอกสารรับรองการฉีด Vaccine ครบโดส รวมถึงมีการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ มองว่าจะเป็นบวกเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ค้าปลีก (BJC CPALL) สาเหตุที่เป็นเพียงเชิงจิตวิทยา เพราะว่าปัจจุบันราคาหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวต่างก็ปรับตัวขึ้นมาใกล้เคียงระดับก่อน COVID-19 แล้ว มีเพียงค้าปลีกที่ยัง Laggard สามารถสะสมได้ สำหรับเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการเนื่องจากวันขอบคุณพระเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม เช้านี้บรรยากาศดูมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่แกว่ง แดนลบ 0.97% และ Dow jones future ที่อยู่แดนลบ 0.43% ประกอบกับเข้าสู่วันหยุดสุดสัปดาห์ เสี่ยงเผชิญแรงขายทำกำไร จึงอาจทำให้ SET INDEX วันนี้ เสี่ยงจะปรับฐานลงในกรอบ 1638–1646 แต่ยังเชื่อว่าในระยะถัดไปมีโอกาสผ่าน 1660 ไปได้หนุนจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะขยายตัวได้ดีขึ้น ดังนั้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนการปรับฐานจึงแนะใช้เป็นโอกาสสะสม โดยเฉพาะกลุ่มอิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK SCB) สื่อนอกบ้าน (VGI) เครื่องดื่ม (CBG TACC) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ส่วนระยะสั้นเน้น หุ้นได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า อาทิ ส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) ได้ประโยชน์จาก COVID-19 ระบาดใน EU (XO)

Stock Pick

XO (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 27 บาท) แนวโน้ม 4Q21 คาดรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจาก 4Q20 และ 3Q21 จากการมีคำสั่งซื้อที่เลื่อนการส่งมอบมา แต่ยังไม่ดีเท่า 2Q21 เพราะลูกค้าบางส่วนชะลอการซื้อเพื่อดูว่า XO จะมีสินค้าส่งให้หรือไม่

KCE (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 103 บาท) คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดของ ปีใน 4Q21 หลังทั่วโลกคลายล็อกดาวน์ ขณะที่การขยายกำลังการผลิตขึ้น 20% ในช่วงปลายปีนี้จะกลายมาเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของกำไรปี 2022 ได้อีกแรง

- Advertisement -