Daily Focus: Domestic and Selective Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาด โดยยังเปิดตลาดในแดนบวกก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบเล็กน้อย 1.36 จุด และยังได้ปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางลงเหลือ 338 ลบ. (และพลิกมา Short Index Futures 1.3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index ยังแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,642-1,655 จุด โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น รวมถึงมีปัจจัยกดดันจากความกังวล COVID-19 กลายพันธุ์ใหม่ของแอฟริกาที่อาจรุนแรงกว่า Delta ขณะที่ Dollar Index ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็น Sentiment ลบกดดันกระแสเงินทุนในเอเชีย เรายังคงน้ำหนักบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนของไทยที่จะทยอยเกิดขึ้นใน 4Q21 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้น Domestic และ Reopening Play อย่างชัดเจน ภายใต้สมมติฐานสามารถควบคุมการระบาดได้ดีและไม่ต้องกลับไป Lockdown กลยุทธ์ยังแนะนำ “ถือลงทุน” สำหรับส่วนที่สะสมมาแล้ว ส่วนระยะสั้นเก็งกําไรหุ้นที่ยัง Laggard และยังมี Valuation ยังต่ำกว่าก่อนวิกฤต COVID-19

กลยุทธ์: เน้นลงทุนหุ้น Domestic และ Reopening Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ย.: CHG, FSMART, GPSC, JWD, KCE

หุ้นเด่นวันนี้: NSL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
  • แนวโน้ม 4Q21 จะฟื้นแรงตามสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลาย และทำให้ลูกค้าเข้า 7-11 มากขึ้น รวมถึงปัญหา Supply Chain ที่หมดไป ทำให้ทั้งรายได้และ Margin ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ
  • เราคาดกําไรปี 2021 +25% Y-Y และเร่งตัวปีหน้า +44% Y-Y โดยระยะถัดไปคาดจะเติบโตในกัมพูชาตาม 7-11 เช่นกัน
  • แนวรับ 19.50-19.30 บาท แนวต้าน 20 // 20.40 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$ 519 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$ 324 ล้าน และ US$ 151 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนไหลออกทุกประเทศมีเพียงไทยที่ไหลเข้าบางๆ US$ 10 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าค่อนไปในทางไหลออกจาก Dollar Indexx ที่ยังแข็ง รวมถึงความกังวล COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาที่อาจรุนแรงกว่า Delta

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) AOT ขยายเวลาช่วยเหลือผู้เช่าและสายการบินออกไปอีก 1 ปี ถึง มี.ค. 2023 ส่งผลให้ประมาณการของเรามี Downside โดยปี 2022 คาดขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันลบ. จากเดิม 900 ลบ. ส่วนปี 2023 คาดกำไร 2.1 หมื่นลบ. จากเดิม 2.7 หมื่นลบ. และทำให้ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 80 บาท มี Downside แนะนำ “สะสมในช่วงอ่อนตัว”

(+) BCH ผู้บริหารคาดรายได้ปี 2022 ที่ 1.7 หมื่นลบ. +102% เทียบกับฐานรายได้ที่ไม่รวม COVID-19 ของปี 2020 และฟื้นตัวแรงทุกกลุ่มทั้งเงินสดประกันสังคมการรักษา COVID-19 และวัคซีนซึ่งทำให้ประมาณการของตลาดที่คาดราว 1.2 หมื่นลบ. มี Upside อย่างมีนัยยะ ระยะสั้นกำไร Q21 จะชะลอ Q-Q แต่คาดยังแข็งแกร่งกว่า 2Q21 ส่วนโรงพยาบาลใหม่ทั้งอรัญประเทศ ปราจีนบุรี และเวียงจันทน์ จะหนุนการเติบโตระยะยาว รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ อย่างแล็บการนำเข้ายาและอุปกรณ์การแพทย์ และน้ำวิตามิน เรายังคงราคาเป้าหมาย 28.50 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) ZEN คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวพลิกมีกำไรอีกครั้งใน 4Q21 หลังกลับมาเปิดบริการร้านอาหารได้ปกติ และผู้บริโภคกลับเข้ารับบริการคึกคัก โดยเฉพาะ AKA และ ZEN ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ Diversify มากขึ้นในส่วน Delivery Franchise และค้าปลีก โดยเตรียมส่งน้ำปลาร้ากัญชาออกสู่ตลาด ธ.ค. ยังคงมุมมองผลการดำเนินงานปี 2022 พลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 3 ปี คงราคาเป้าหมาย 15 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) IP แนวโน้มกำไรคาดฟื้นตัวใน 4Q21 เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษซื้อโรงงานอยุธยา รวมถึงยอดขายจากโรงงานดังกล่าวที่จะเร่งตัวขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 5 ปีข้างหน้าแตะ 3 พันลบ.  โดยเราคาดกำไรปี 2021 +90% Y-Y จากการซื้อ 2 โรงงานผลิตยา ส่วนปี 2022 เราคาดกำไร +23% Y-Y โดยมีโอกาสเห็น Upside หากสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น เบื้องต้นเรายังคงราคาเป้าหมาย 21 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในยุโรป

(-) ตลาดเอเชีย ปรับลงจากความกังวลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่สูงขึ้นในยุโรป รวมถึงตลาดโตเกียวที่หุ้นกลุ่มส่งออกได้รับผลกระทบจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)

(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 991.11 / +-

- Advertisement -