สรุปภาวะตลาด

วันพฤหัสทที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนในช่วงเช้าประมาณ 5-6 จุด แต่ดัชนีเผชิญแรงขายในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีปรับตัวลงราว 3-4 จุด จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันท่ีปรับตัวลง เช่น PTT, PTTEP และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องท้ัง CPALL, MAKRO แต่มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารท่ีพยุงดัชนี อย่าง KBANK, SCB, TTB ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,648.46 จุด -1.36 จุด -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 73,548 ลบ. ต่างชาติ +338.38 ลบ. TFEX -13,478 สัญญา ตราสารหนี้ -8,304.54 ลบ.

ปัจจัยบวก

+/- ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

+ ฝรั่งเศสเปิดให้ปชช.ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สุดสัปดาห์น้ี หวังสกัดโควิดโดยไม่ต้องล็อกดาวน์

+ อินเดียเล็งออกกฎหมายคุมเงินคริปโตแทนการส่ังห้ามโดยสิ้นเชิง

+ สธ.ลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 30 ล้านโดส สำหรับปี 65 เป็นเข็มกระตุ้น

+ ตลท. เผยบจ. mai 9 เดือนปี 64 ยอดขายโต 12.0% กำไรสุทธิพุ่ง 463.5%

+สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 จาก 0.4% เป็น 1.1% และปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจในปี 2565 จาก 3.2% เป็น 3.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยใน 3Q64 ท่ีดีกว่าคาด

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 6,559 ราย ATK 2,806 ราย มีผู้เสียชีวิต 64 ราย รักษาหาย 6,875ราย

ปัจจัยลบ

– รัฐบาลสหรัฐข้ึนบัญชีดำด้านการค้ากับบริษัทเทคโนโลยี 8 แห่งในจีนโดยระบุว่าเป็นข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ตลอดจนด้านนโยบายต่างประเทศ

– รัฐบาลจีนแสดงการคัดค้านต่อกรณีที่สหรัฐเชิญเจ้าหน้าที่ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตย

-WHO จัดประชุมวาระพิเศษวันนี้ หลังพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ สายพันธ์ุใหม่ B.1.1.529 ท่ีอาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของร่างกาย

– โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า FED มีแนวโน้มที่จะเร่งอัตราการลดวงเงิน QE ข้ึนเป็นสองเท่าท่ีระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 เป็นต้นไป และจะยุติมาตรการดังกล่าวภายในกลางเดือนมี.ค. 2565

-ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคไทย สรุปว่าโควิด-19 กระทบต่อรายได้ผู้บริโภคอย่างมากถึง 48% ส่งผลให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจท้ังในด้านการใช้จ่าย การจัดการภาระหนี้ และปัญหาสภาพคล่อง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ียังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังโบรกต่างประเทศปรับเพิ่มคำแนะนำ ขณะท่ียังมีแรงกดดันจากการพบโควิดสายพันธ์ุใหม่ในแอฟริกาใต้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640- 1,657 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • MSCI Global Small Cap Indexes มีผล 30 พ.ย. หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN
  • ประเด็นปรับข้ึนค่า Ft จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EA SSP GPSC BGRIM
  • หุ้นกลุ่มธนาคารเหมาะสำหรับเศรษฐกิจระยะฟื้นตัว SCB KBANK BBL BAY TTB

หุ้นรายงานพิเศษ

IP (Bloomberg Consensus 24)

  • ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตสู่ 1.5-1.6 พันลบ. โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้จาก Modern Pharma โรงงานผลิตยาของ เทวา ฟาร์มา และการเข้าซื้อธุรกิจร้านขายยา Lab Pharmacy เป็นตัวหนุนรายได้ ทั้งนี้จากการขยายการลงทุนสู่ต้นน้ำและปลายน้ำ ช่วยหนุนให้บริษัทมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในอีก 5 ปีต่อ จากน้ีสู่ 3 พันลบ. และอยู่ระหว่างทำ telemedicine และ televet ซึ่งเป็นการขายทาง online
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อรายได้และผลประกอบการของ IP อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาในปัจจุบันซื้อขายที่ PE Ratio สูงถึง 81 เท่า ซึ่งสูงกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ย 30-40 เท่า เราจึงแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg Consensus 26.00 บาท) ปักธงรายได้ปี 2565 โต 104% คนไข้ทั่วไป- ต่างชาติกลับมาฟื้นตัว โควตาประกันสังคมเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน รายได้บริการตรวจโควิด-วัคซีนโมเดอร์นาหนุน ด้านรพ.เกษมราษฎร์เวียงจันทน์มี EBITDA เป็นบวกแล้วคาดปี 2565 สร้างกำไรได้ มองโอกาสขยายโรงพยาบาลในลาวเพิ่ม พร้อมลุย New S-Curve 3 ธุรกิจใหม่ เสริมรายได้ (ที่มา ทัน หุ้น)

(+) III (Bloomberg Consensus 15.25 บาท) รับดีมานด์กระหน่ำโค้งสุดท้าย แถมค่าระวางเรือ- อากาศยังสูง หนุนผลงานกระฉูดยาว มีขนส่งทางรางลาว-จีนเสริมอีก จ่อเริ่มธันวาคมนี้ ลั่นปีหน้าโตต่อ จากออแกนิค 30% แถมมีซื้อกิจการเพิ่ม แย้มจ่อเซ็นพันธมิตรใหม่ 1-2 ราย มกราคมปีหน้า (ที่มา ทัน หุ้น)

(+) SGP (Bloomberg Consensus – บาท) “สยามแก๊สฯ” ลั่นรายได้และกำไรไตรมาส 4/64 จ่อทำนิวไฮ รับไฮซีซั่นธุรกิจ บวกเปิดประเทศดันความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น หนุนผลงานทั้งปี 64 เติบโตนิวไฮ พร้อมตั้งเป้าปี 65 รายได้พุ่ง 5-8% จากปี 64 เหตุคาดปริมาณการขายก๊าซ LPG สูงข้ึนตามความต้องการใช้ท่ีมากขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IIG (Bloomberg Consensus 43.00 บาท) “ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป” ปักธงปี 65 มีรายได้ 900-950 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 288 ล้านบาท มีมูลค่าสัญญารายปี 326 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนาเสนองาน 467 ล้านบาท คาดได้งานกว่า 200 ล้านบาท ลุ้นปิดดีล M&A ภายในสิ้นปี 64 คงเป้ารายได้ปี 67 แตะ 2,000 ล้านบาท (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 26 พ.ย.ประชุมศบค.

  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นำเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 29 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ต.ค. ดัชนีการผลิตเดือน พ.ย. จากเฟดดัลลัส
  • 30 พ.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต -ภาคบริการเดือน พ.ย. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน

อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือน พ.ย.

สหรัฐรายงานดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.จาก Conference Board

  • 1 ธ.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากไฉซิน

อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. จาก ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต ดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์

- Advertisement -