ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งตัวกรอบจํากัดต่อไป

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์เทรดไซด์เวย์ต่ออีก … หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ก่อนปิดลบเล็กน้อย (ตามคาด) โดยแรงซื้อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่เข้ามาช่วยจำกัดทางลงของตลาดไว้…ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลางหรือลบเล็กน้อย i) ตลาดการเงินของสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ii) หลังจาก ธ.กลางสหรัฐฯรายงาน meeting minutes ที่ส่งสัญญาณพร้อมปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากกว่าเดิม พบว่าสำนักวิจัยต่างประเทศอย่างน้อย 3 แห่งได้เปลี่ยนมุมมองต่อการทำ QE tapering ของสหรัฐฯจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เป็น 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (ลดการซื้อสินทรัพย์ลงเร็วกว่าเดิม) ซึ่งหากเป็นจริงๆเท่ากับว่าเฟดจะเสร็จสิ้นการทำ tapering ในปลายเดือน มี.ค. 2565 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะกดดันจิตวิทยาของตลาดหุ้นเอเชียในช่วงสั้น iii) WHO เรียกประชุมฉุกเฉินหลังจากพบเชื้อ COVID-19 ที่กลายพันธุ์อย่างมากในแอฟริกาและฮ่องกง ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย แต่ควรติดตามใกล้ชิด เนื่องจากไทยได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้ว …. ด้านปัจจัยภายในประเทศวันนี้ศบค. จะมีการประชุมชุดใหญ่ ซึ่งมีโอกาสที่จะมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขการติดเชื้อฯในประเทศไทยชะลอลงต่อเนื่อง ส่วนเช้าวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 6,559 ราย เสียชีวิต 64 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 6,875 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร VGI*, LEO, BANPU*

  • VGI* (เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.9 บาท / แนวต้าน 7.2-7.5 บาท (Stop loss 6.8 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2-64 / 65 (ต.ค. 64-มี.ค. 65) ภายหลังการเปิดประเทศซึ่งเป็นบวกต่อ Demand สื่อโฆษณานอกบ้าน ขณะที่คาดูผลการดำเนินงานปี 2565/66 (ปิดงบ มี.ค. ) จะเติบโตเด่น +122% YoY จาก i) สื่อโฆษณานอกบ้านฟื้น ii) Upside จากธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล อาทิ Synergy benefit จากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม JMART* และ Rabbit cash 3) ราคาหุ้น Laggard PLANB* ที่วานนี้ปรับขึ้นแรงจนทำให้อัตราส่วนราคา PLANB* / VGI* ฉีกกรอบ Bollinger band (+2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระยะเวลา 20 วัน)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.1 บาท / แนวต้าน 12.6 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 13.3 บาท (Stop loss 11.6 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 ยังทรงตัวสูงต่อเนื่องจาก 3Q64 จาก 1) มีรายได้เลื่อนการรับรู้ทางบัญชีจาก 3Q64) ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ Shanghai Containerized Freight index ล่าสุดยั่งยืนสูงมากกว่า 4,500 จุด ลดลงเพียง 1.9% QTD แม้เป็น Low Season ของการขนส่งระหว่างประเทศ และคาดการขนส่งจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในเดือน ม.ค. 65 ก่อนเทศกาลตรุษจีน 3) Catalyst บวกในเดือน ธ.ค. ที่จะเป็น Upside ต่อประมาณการฯ ได้แก่ i) การปิดดีล M&A 1 แห่ง และ ii) การสรุปดีลบริหารจัดการการขนส่งสินค้ารถไฟจีน-ลาวของพันธมิตร China post (โดย China post ได้สิทธิราว 1/5 ของปริมาณขนส่งรถไฟจีน-ลาว)
  • BANPU* (เป้าพื้นฐาน 13 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.4 บาท / แนวต้าน 12.1 บาทหากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 11.1 บาท) 2) ประเมินราคาถ่านหินเริ่มฟื้นตัวล่าสุดอยู่ที่ 185 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (ฟื้นจากจุดต่ำสุด 140 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน) เนื่องจาก i) Demand จากฤดูหนาว (ผลจาก La Nina) ii) ราคาก๊าซที่ปรับสูงขึ้นทำให้คาดราคาหุ้น BANPU มีโอกาสรีบาวด์ 3) ประเมินการขายหุ้นโรงไฟฟ้า Sunseap ล่าสุดคาดจะทำให้ BANPU มีกำไรพิเศษราว 0.9-1.0 บาท/หุ้น อย่างไรก็ดีคาดมีโอกาสที่จะนำเงินสดที่ได้ไปซื้อ/ลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่เร็วๆ นี้ 4) Sentiment บวกจากมาตรการสนับสนุนธุรกิจ EV คาดเป็นบวกต่อธุรกิจแบตเตอรี่ของบ.ลูก Banpu NEXT

หุ้นมีข่าว

(+) KTB* จ่อผุดบิ๊กดีล ธ.ค. นี้ จับมือ ‘ต่างชาติ ตั้งบริษัทร่วมทุน (กรุงเทพธุรกิจ) พลิกโฉมดำเนินธุรกิจหนุนเติบโตต่อเนื่อง “กรุงไทย” เผยต้น ธ.ค. นี้เตรียมประกาศบิ๊กดีลจัดตั้งบริษัท ร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ หนุนให้เกิดการปฏิวัติองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้ยุทธศาสตร์เรือเร็ว หวังสร้างศักยภาพการเติบโตแบงก์อย่างมีเสถียรภาพ

(+) PTT* ตั้งเป้าผลิตรถปี 67 แตะ 1.5 แสนคัน (ทันหุ้น) PTT จับมือ “ฟ็อกซ์คอนน์” เดินหน้าธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเตรียมตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) กลางปี 2565 คาดผลิตได้ในปี 2566 จำนวน 5 หมื่นคัน และวางเป้าผลิต 1.5 แสนคันในปี 2567 ขณะที่ผลประกอบการปี 2565 แนวโน้มที่จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าอยู่ที่ 71-76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาโตรเคมีอ่อนตัวตามอุปทานที่เพิ่มขึ้น ฟากโบรกมองธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าจะสร้างการเติบโตระยะยาว พร้อมประเมินผลงานปี 2565 โต 10%

(+) คลังปั้นไทยศูนย์กลางผลิตกระบะไฟฟ้า (ข่าวสด) เล็งตั้งกองทุนอุดหนุนราคาขายปล่อยกู้ผุดสถานีชาร์จ คลังประกาศนโยบายสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะไฟฟ้า ราคาต้องไม่แพงกว่าราคาปัจจุบัน เร่งคลอดมาตรการสนับสนุนด้านราคาลดภาษีสรรพสามิต พร้อมประสานแบงก์รัฐปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำส่งเสริมการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า

(+) GULF*-PTT* เซ็นแหลมฉบังยกระดับเทียบเท่าสิงคโปร์ (ทันหุ้น) GULF-PTT นำทีม GPC ลงนามโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 รองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศเดินหน้าลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ให้ผลตอบแทนภาครัฐที่ 2.9 หมื่นล้านบาท ยิลด์สูง คาดโกยรายได้ 8,000 ล้านบาทคืนทุนใน 10 ปี เล็งยกระดับเป็นท่าเรือชั้นนำเทียบสิงคโปร์ให้ต่างชาติบริหาร

(+) GLOBAL* ผนึก SCC* บุกอินโดขยายฐานค้าปลีกอาเซียน (ทันหุ้น) GLOBAL จับมือ SCC เข้าซื้อหุ้น CKDB มูลค่า 981 ล้านบาท รุกตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศอินโดนีเซียต่อยอดแผนส่งเสริมกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียน จับตาไตรมาส 4/2554 ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามดีมานด์การตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัย

(+) IG ลุ้นปิดดีล M&A ภายในสิ้นปีนี้ปักธงปี 65 รายได้พุ่ง 900-950 ล้าน (ข่าวหุ้น) “ไอแอนด์ไอกรุ๊ป” ปักธงปี 65 มีรายได้ 900-950 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 288 ล้านบาท มีมูลค่าสัญญารายปี 326 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนำเสนองาน 467 ล้านบาท คาดได้งานกว่า 200 ล้านบาท ลุ้นปิดดีล M&A ภายในสิ้นปี 64 คงเป้ารายได้ปี 67 แตะ 2,000 ล้านบาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 3.6 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 3.2 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 2.3 บาท)
  • STEC* (เป้า Consensus 16.4 บาท) แนวรับ 14.4 บาท / แนวต้าน 14.7 บาทหากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.2 บาท)
  • KTB * (เป้าพื้นฐาน 15.4 บาท) แนวรับ 11.6 บาท / แนวต้าน 11.8-12.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 11.6 บาท)
  • ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 209 บาท / แนวต้าน 215 -220 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 206 บาท)
  • GFPT (เป้าพื้นฐาน 12.8 บาท) แนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 12.8-13.0 บาท (Stop loss 12.0 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) แนวรับ 5.15 บาท / แนวต้าน 5.35-5.6 บาท (Stop loss 5.05 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • ZEN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 17.7 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวก โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด -19 และเข้าสู่ช่วง High season ขณะที่คาดผลการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรได้ในปี 2565 คงคำแนะนำ “ชื้อ”
  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” งบดุลธนาคารเดือน ต.ค. แม้ว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเริ่มชะลอตัวลงในหลายธนาคาร หลังจากที่ขยายตัวมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ KTB เป็นธนาคารที่งบดุลมีความเคลื่อนไหวมากสุด (ผลจากมาตรการภาครัฐฯ ) ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมาตรการของ ธปท. จะทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มฯ ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวต่อเนื่อง

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หลักทรัพย์ /2. เป้าพื้นฐานหมายถึงราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -