เควิดสายพันธุ์ใหม่กดดันบรรยากาศลงทุนระยะสั้น

โควิดสายพันธุ์ใหม่ไม่กระทบเปิดเมือง แต่อาจกระทบเปิดประเทศ องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดการประชุมวาระพิเศษ (26 พ.ย.) หารือเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ (B.1.1.529) ที่มีความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันและกลายพันธ์ได้มากที่พบในแอฟริกา และเริ่มมีการตรวจพบเชื้อที่บอตสวานาและฮ่องกง ล่าสุดอังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในแอฟริกา ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนและแอฟริกา // สถานการณ์ดังกล่าวเราประเมินว่าจะไม่กระทบกับภาพรวมการ “เปิดเมือง” ของไทยและประเทศต่างๆที่กำลังดำเนินอยู่ แต่จะทำให้การยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังต้องใช้เวลาอีกระยะ ซึ่งจะทำให้กลุ่มท่องเที่ยวกิจการที่ซึ่งการเปิดประเทศหรือได้ผลดีจากการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากประเด็นดังกล่าว จากความเสี่ยงการฟื้นตัวของผลประกอบการที่อาจจะชะลอออกไป

ศบค. มีแนวโน้มเพิ่มผ่อนคลาย โดยปรับลดพื้นที่โซนสีแดงเข้ม และยกเลิกเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานในทุกจังหวัด ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเพิ่มระดับของการบริโภค ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในธีมเปิดเมือง โดยเฉพาะที่เน้นกำลังซื้อจากผู้บริโภคภายในประเทศ เรายังคงมุมมองบวกต่อหุ้นบริโภคในประเทศ อาทิ ธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, สื่อสาร, ค้าปลีกอย่างไรก็ตาม เน้นเป็นการซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังหุ้นจำนวนมากปรับขึ้นแรง ขณะที่ประเมินระยะสั้นหุ้นสาธารณูปโภคอาจเข้ามามีบทบาทในช่วงนักลงทุนกังวลความเสี่ยงจากการปรับประมาณการกำไรที่อาจเกิดจากสถานการณ์ระบาดของโควิดที่ยืดเยื้อ

ธีมการลงทุนระยะสั้น

1) พลังงานทดแทนและรถไฟฟ้ารับ COP26 ดีกับ EA, NEX, SUPER

2) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP

3) ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH

4) หุ้นธีมเปิดเมือง CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA

5) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW

6) ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ได้แก่ SPALI, QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP (ตามลำดับ)

7) ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน หนุนการย้ายฐานผลิตมาไทย บวกกับ AMATA, WHA, ROJNA, CCET, SMT

8) กลุ่มการเงินหรือ IPO ที่ยังขึ้นน้อย IFS, PIN, ONEE, CV, UBE, DMT, ASW

ภาพรวมกลยุทธ์: มีแนวโน้มผันผวนทางลงจากความกังวลโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเรามองจะกระทบการฟื้นตัวของหุ้นท่องเที่ยว และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต่างชาติ ขณะที่กระทบจำกัดต่อหุ้นในธีมเปิดเมือง // หุ้นแนะนำ: BANPU, AMR, WHA, DMT

แนวรับ: 1,635 / แนวต้าน: 1,650-1,660 จุดสัดส่วน: เงินสด 50%: พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • จีนยังไม่รับปากปล่อยน้ำมันสำรองโอเปกพลัส – ขณะที่โอเปกพลัสก็ยังไม่ได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงแผนการใดๆ หลังจากที่สหรัฐประกาศปล่อยน้ำมันสำรองร่วมกับพันธมิตรจำนวนหนึ่ง
  • ลุ้นศบค. คลายล็อกเปิดเมืองเฟส 2 – ลุ้นชงแผนเปิดประเทศระยะ 2 เข้าที่ประชุมศบค. วันนี้ เพิ่มช่องทางเข้าไทยผ่านด่าน-ท่าเรือที่ปลอดภัย
  • คลังปั้นไทยศูนย์กลางผลิตกระบะไฟฟ้า-คลังประกาศนโยบายสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะไฟฟ้า เร่งคลอดมาตรการสนับสนุนด้านราคา ลดภาษีสรรพสามิต พร้อมประสานแบงก์รัฐปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ส่งเสริมการลงทุน
  • MSCI Rebalancing-สิ้นวัน 30 พ.ย. รอบนี้ไม่มีหุ้นขนาดใหญ่เข้า-ออก แต่ในหุ้น-ขนาดเล็ก (MSCI Global Small Cap) มีหุ้นเข้า BEC, TIPH, TIDLOR ขณะที่หุ้นออกคือ TKN // ระวังแรงขายทำกำไรของหุ้นที่เข้าคำนวณ ขณะที่หุ้นที่หลุดดัชนีอย่าง TKN การปรับลดลงของราคาหุ้นจะเป็นโอกาสซื้อรับ Turnaround
  • Opportunity day – 26 พ.ย. -KEX, SHREIT, TVD, STECH, GUNKUL, TQR, CRC, UREKA, PTG, NCL, AS, SECURE, JKN, BH / 29 พ.ย.-NOBLE, BIZ, PF, GGC, TK, K, TQM / 30 พ.ย. -LOXLEY, LEO, NCH, CNT, CHEWA, AH, BCH / 1 ธ.ค. -ACE, TPIPP, DDD, AMR, HARN, BGRIM, RAM

ประเด็นติดตาม: -28 พ.ย. – เลือกตั้งท้องถิ่น / 30 พ.ย. -MSCI Rebalancing Effective date / 17 ธ.ค. -FTSE Rebalancing Effective date

ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร BANPU* (14.40) : ราคาถ่านหืนฟื้นตัว ขณะที่กำไรไตรมาส 4/64-1/65 ยังเดินหน้าเป็นขาขึ้น ตัดขาดทุน 10.60 บาท 
  • เก็งกำไร AMR (8) : หุ้นขนาดเล็กที่เข้าเกณฑ์ FTSE Micro Cap มีผล 17 ธ.ค. 64 ตัดขาดทุน 6.10 บาท 
  • เก็งกำไร WHA (4.10): การกระจายฐานการผลิตออกจากจีนเป็นบวกต่อหุ้นนิคมอุตสาหกรรมตัดขาดทุน 3.56 บาท 
  • เก็งกำไร DMT* (13.50): ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มฟื้นตัวตามกิจกรรมเศรษฐกิจ ตัดขาดทุน 12 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์  ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐานและไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ) 

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ: ปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving day (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (25 พ.ย. ) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภค ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในยุโรป (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และแรงซ้อนซื้อหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ถูกเทขายออกมามากเกินไป หลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส ในการตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ตัดสินใจระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรอง (อินโฟเควสท์)

จีนยังไม่รับปากปล่อยน้ำมันสำรองโอเปกพลัส: จีนยังไม่ได้สัญญาที่จะปล่อยน้ำมันสำรองตามที่สหรัฐขอ ขณะที่โอเปกพลัสก็ยังไม่ได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงแผนการใดๆ หลังจากที่สหรัฐประกาศปล่อยน้ำมันสำรองร่วมกับพันธมิตรจำนวนหนึ่ง

ลุ้นศบค. คลายล็อกเปิดเมืองเฟส 2: ลุ้นชงแผนเปิดประเทศระยะ 2 เข้าที่ประชุมศบค. วันนี้ เพิ่มช่องทางเข้าไทยผ่านด่าน-ท่าเรือที่ปลอดภัย

คลังปั้นไทยศูนย์กลางผลิตกระบะไฟฟ้า: คลังประกาศนโยบายสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะไฟฟ้า เร่งคลอดมาตรการสนับสนุนด้านราคาลดภาษีสรรพสามิต พร้อมประสานแบงก์รัฐปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำส่งเสริมการลงทุน

BANPU: คาดผลประกอบการในไตรมาส 4/64 ยังได้รับแรงหนุนจากราคาถ่านหินและก๊าซที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและอาจผันผวนบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับสูงจากความต้องการใช้ยังสูงอยู่แม้ว่าการผลิตถ่านหินในไตรมาส 4/64 จะดีกว่าในไตรมาส 3/64 ทั้งในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย นอกจากนี้ต้องจับตาท่าที่รัฐบาลจีนที่จะมีผลกระทบต่อความต้องการใช้ถ่านหินไม่ว่าจะออกมาตรการควบคุมหรือผ่อนปรน ส่วนราคาก๊าซในไตรมาส 4/64 ยังคงอยู่ระดับสูง

Report & Corporate News

BCH Maintained BUY TP: 20.00 บาท: ผลประกอบการของ BCH คาดว่าจะค่อยๆลดลงจาก 4Q21 เป็นต้นไปเนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 สะสมที่ลดลง การลดลงจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยรายได้จากวัคซีนทางเลือก คาดว่ารายการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในปีต่อๆ ไป และอาจส่งผลให้รายได้ของ BCH กลับมาเป็นปกติอีกในปี 2023 อย่างไรก็ตาม จากกำไรสุทธิจำนวนมากใน 3Q21 เราคาดว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจน่าจะเกิดขึ้น ยังคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท

STEC: คณะกรรมการ EEC เปิดทางเอกชนลงทุนโครงการเมืองการบินภาคตะวันออก สนามบินอู่ตะเภาเพิ่ม 1-2 แสนล้านบาท มั่นใจพร้อมส่งมอบพื้นที่เข้าดำเนินงานควบคู่กับกองทัพเรือเปิดประมูลสร้างรันเวย์ 2 ช่วงไตรมาส 1/2565 ด้าน UTA มั่นใจคุ้มค่าลงทุน ด้านนักวิเคราะห์ชี้ STEC รับเต็มๆ ได้งานมีสิทธิ์มาร์จิ้นฟื้นแตะ 6% อีกครั้ง แนะ “ซื้อ” เป้า 21.47 บาท (ทันหุ้น)

CPALL: CPALL ผงาดดัน “แม็คโคร-โลตัสส์-เซเว่น” สู้ศึกปีเสือ พร้อมเดินหน้าขยายสาขา 700 แห่ง คาดใช้งบลงทุนราว 1-1.2 หมื่นล้านบาท เล็งขยายต่างประเทศเพิ่มทั้งกัมพูชาและลาว ชัดปรับเกมส์ทุกสถานการณ์ ฟากกูรูมองไตรมาส 4/2564 เริ่มฟื้นธุรกิจ ปีหน้าสัญญาณดี แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 84 บาท (ทันหุ้น)

BANPU: BANPU ราคาถ่านหิน-ก๊าซในไตรมาส 4/2564 ยังทรงตัวสูงหลังเข้าไฮซีซันปัจจัยฤดูหนาวหนุนความต้องการเพิ่ม ดันผลงานปี 2564 เติบโตโดดเด่น พร้อมกางแผนปี 2565 อัดฉีดเงิน 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดินหน้าลงทุนพลังงานและเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ต่อเนื่อง (ทันหุ้น)

GLOBAL / SCC: GLOBAL จับมือ SCC เข้าซื้อหุ้น CKDB มูลค่า 981 ล้านบาท รุกตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศอินโดนีเซีย ต่อยอดแผนส่งเสริมกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียน จับตาไตรมาส 4/2564 ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามดีมานด์การตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัย (ทันหุ้น)

BIZ: บอร์ด BIZ ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 ธ.ค. 64 สมพงษ์ลุ้นประมูลงานอีก 800 ล้านบาท หนุนผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย คาดทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง (ข่าวหุ้น)

JMT: หุ้น JMT มีโอกาสไปต่อสูงเป้าหมาย 70 บาท กูรูมองราคาสมเหตุสมผลอีก 3 ปี P/E เหลือ 17 เท่าจาก 63 เท่าในปัจจุบัน หลังรับผลตอบแทนจากขาย NPL ล็อตใหญ่ วงเงินซื้อหนี้เพิ่ม 3 เท่าตัวใน 3 ปี พร้อมร่วมทุนกสิกรไทยตั้ง AMC บริหารหนี้ ลุ้นเข้า SET50 กลางเดือนธันวาคมนี้ (ข่าวหุ้น)

GULF / PTT: GULF-PTT เซ็นสัญญารับงานแหลมฉบังเฟส 3 แล้วทุ่ม 3 หมื่นล้านบาทลงทุนงานส่วนโครงสร้างหน้าท่าระบบอุปกรณ์พร้อมบริหารรวม 35 ปี วางแผนกู้เงินมาลงทุน 60-70% ที่เหลือ 30% ใช้เงินทุนของผู้ร่วมทุนทั้ง 3 ราย เริ่มเข้าพื้นที่ปี 66 เปิดบริการครบ 2 ท่าเรือปี 72 สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี คาดคืนทุนใน 10 ปี (ข่าวหุ้น)

- Advertisement -