Daily Focus-Selective and Defensive Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัวในแดนลบและเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดวัน โดยปิดลบแรงถึง 37.85 จุดจากความกังวลโควิดกลายพันธุ์ใหม่จากแอฟริก ส่งผลให้ทั่วโลกเทขายสินทรัพย์เสี่ยง สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นสูงถึง 3.5 พันลบ. และ 6 พันลบ. ตามลำดับ (และพลิกมา Short Index Futures 1.3 หมั่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index มีโอกาสพักตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,600 จุด จากความกังวลโควิดกลายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ซึ่งเริ่มลุกลามจากแอฟริกาไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งยุโรปและอเมริกา ซึ่งเราประเมินว่าจะเริ่มเห็นมาตรการควบคุมการบินที่เข้มขึ้น เป็นลบต่อภาคการเดินทางและท่องเที่ยว รวมถึงกดดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับลงแรง -13% กดดันกลุ่มพลังงานต่อเนื่องวันนี้ ส่วนด้านกระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตร ส่งผลให้ Bond Yield ปรับลงแรง ระยะสั้นต้องติดตามประสิทธิภาพของวัคซีนต่อโอไมครอนภายใน 2 สัปดาห์ว่าลดลงหรือไม่ รวมถึงแนวโน้มการระบาดในเอเชีย  แต่เราระยะถัดไปผู้ผลิตจะสามารถปรับสูตรวัคซีนให้รองรับได้ภายใน 100 วัน เราจึงมองจังหวะปรับฐานที่ระดับ 1,600 จุดหรือต่ำกว่าเป็นจังหวะ “ทยอยสะสม” ส่วนระยะสั้นเน้นหุ้นที่ถูกกระทบจํากัดหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ ได้แก่ การแพทย์ ส่งออก โลจิสติกส์ เทคโนโลยี

กลยุทธ์: เลือกลงทุนเป็นรายตัวที่ถูกกระทบน้อยหาก COVID-19 ระบาดระลอกใหม่

หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CHG, FSMART, GPSC, JWD, KCE

หุ้นเด่นวันนี้: EKH

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท
  • แนวโน้ม 4Q21 แม้จะอ่อนตัว Q-Q ตาม COVID-19 ที่คลี่คลาย แต่คาดยังเติบโตโดดเด่น Y-Y โดยเบื้องต้นคาดใกล้เคียง 2Q21 หนุนกำไรทั้งปี 2021 ที่คาด +289% Y-Y มี Upside ราว 14%
  • เราประเมิน EKH จะเป็นหลุมหลบภัยที่ดีกรณีเกิดการระบาดระลอกใหม่ หลังเชื้อสายพันธุ์ “โอไมครอน” เริ่มพบในยุโรป แต่หากควบคุมได้ เราประเมินธุรกิจ IVF ของ EKH จะฟื้นตัวหนุนการเติบโตระยะถัดไป
  • แนวรับ 7.80 // 7.60 บาท แนวต้าน 8-8.20 // 8.50 บาท

Fund Flow:

เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$ 1,426 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$ 1,143 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศ นำโดยไทยและเวียดนาม US$ 181 ล้านและ US$ 93 ล้าน ตามลำดับ โดยถูกกดดันจากความกังวลโควิดกลายพันธุ์ใหม่โมไมครอน ซึ่งวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพป้องกันลดลง ทำให้ตลาดกังวลการแพร่ระบาดที่เร็วและอาจต้องมีมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติม แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้จึงคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ต้องระวัง “โอไมครอน” ซึ่งกลายพันธุ์ในแอฟริกาและมีความเป็นไปได้ที่วัคซีนที่มีในปัจจุบันอาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา คาดทราบภายใน 2 สัปดาห์ รวมถึงเริ่มเพิ่มพบผู้ติดเชื้อแล้วหลายประเทศในยุโรป หากลุกลามมายังเอเชียรวมถึงไทย เราประเมินว่ากลุ่ม Reopening อย่าง ค้าปลีก ร้านอาหาร ท่องเที่ยว จะถูกกันอีกครั้ง ส่วนกลุ่มที่จะกลับมา Outperform ได้แก่ การแพทย์ ส่งออก โลจิสติกส์ เรามองหุ้นที่ปลอดภัย ได้แก่ BCH CHG EKH MEGA KCE SMT TU XO XYNEX NSL JWD

(-) ราคาน้ำมัน ถูกกดดันจากการที่หลายประเทศเริ่มปิดพรมแดนระงับเที่ยวบินห้ามการเดินทางจากหลายชาติ และหาก “โอไมครอน” แพร่ระบาดเป็นวงกว้างอาจกระทบอุปสงค์ของน้ำมัน ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นจากการที่สหรัฐและอีก 5 ชาติปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองรวมไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาร์เรล การประชุม OPEC+ ในสัปดาห์นี้เป็นที่จับตาว่าจะลดการเพิ่ม Supply เข้าสู่ตลาดหรือไม่ ระยะสั้นเป็นลบกับ PTTEP PTT โรงกลั่น รวมถึง พืชน้ำมัน (ปาล์ม, UBE)

(0) AOT เรามีการปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายลงหลังประกาศขยายเวลาช่วยเหลือผู้เช่าและสายการบินออกไปอีก 1 ปี จากเดิมสิ้นสุด มี.ค. 2022 เป็น มี.ค. 2023 ทำให้เราปรับลดคาดการณ์ขาดทุนปี 2022 เป็น 4.4 พันลบ. ส่วนปี 2022 ปรับลดคาดการณ์กำไรลง 25% เหลือ 2 หมื่นลบ. ปัจจุบันเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการบินในประเทศ อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่ต้องติดตามหาก COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนระบาดหนักและลุกลาม ซึ่งอาจทำให้ทั้งประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายจาก FSSIA ปัจจุบันที่ปรับลงเหลือ 79 บาท อาจมี Downside ในอนาคต แนะนำ “สะสมในช่วงอ่อนตัว”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 905.04 จุดหรือ 2.53% ปิดที่ 34,899.34 จุดหลังมีรายงานว่าพบเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ ซึ่งอาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้และอาจแพร่ระบาดได้มากขึ้น

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบหลังจากรายงานการพบเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้กระทบต่อเศรษฐกิจโลก

(-) ตลาดเอเชีย ปรับลงหลังมีรายงานพบเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนในหลายประเทศ ซึ่ง WHO ประกาศว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลและอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 10.24 ดอลลาร์หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพบ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์หรือ 0.07% ปิดที่ 1,785.5 ดอลลาร์/ออนซ์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังพบ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 992.85 / +1.74

- Advertisement -