บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

PTT Exploration and Production (PTTEP.BK / PTTEP TB)* แผนลงทุนห้าปี (2565-69)

Event

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-66

Impact

คาดว่าปริมาณยอดขายจะโต 5% CAGR ในช่วงปี 2565-69F

PTTEP คาดว่าปริมาณยอดขายในปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 12% YoY เป็น 467KBOED เนื่องจาก i) สัญญาส่วนแบ่งผลผลิต (production sharing contract หรือ PSC) ฉบับใหม่ของโครงการเอราวัณซึ่งจะมีการผลิต 200-300mmscfd และโครงการบงกชเหนือซึ่งจะมีการผลิต 200mmscfd ในปลายเดือนเมษายน 2555 และ ii) เริ่มเปิดดำเนินการโครงการ Algeria HBR เฟสที่หนึ่งกำลังการผลิต 10-13KBD ใน 1H65 ในขณะเดียวกันเราคาดว่าปริมาณยอดขายของ PTTEP จะอยู่ที่ 463KBOED ในปี 2566 และ 473KBOED ในปี 2567 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากปี 2565 เนื่องจากผลผลิตก๊าซจากโครงการบงกชจะลดลง หลังจากที่เปลี่ยนจากสัญญาสัมปทานฉบับเก่ามาใช้ PSC ฉบับใหม่ ในขณะที่โครงการบงกชใต้ซึ่งอยู่ภายใต้ PSC ฉบับใหม่จะเริ่มผลิตก๊าซ 500mmscfd ในเดือนมีนาคม 2566 และคาดว่าโครงการเอราวัณจะเพิ่มการผลิตก๊าซเป็น 400-500mmscfd ในปี 2566 และ 500-800mmscfd ในปี 2567 นอกจากนี้ผู้บริหารยังคาดว่าปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้น 4% YoY เป็น 493KBOED ในปี 2568 และเพิ่มขึ้นอีก 7% YoY เป็น 528KBOED ในปี 2569 เนื่องจากถึงกำหนด COD ของโครงการ LNG ในโมซัมบิก กำลังการผลิต 13MTA ใน 2H68 และโครงการ Lang Lebah (หรือ SK410B) กำลังการผลิต 800-1,000mmscfd ใน 1H69 ยิ่งไปกว่านั้น PTTEP ยังได้ปรับเพิ่มแผนลงทุนห้าปีเป็น 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ สำหรับปี 2565-69 เพิ่มขึ้น 15% จากแผนห้าปีสำหรับปี 2564-68 จากการเข้าซื้อโครงการ Oman Block 61 ในเดือนมีนาคม 2564 และการพัฒนาโครงการผลิตก๊าซที่ใหญ่ขึ้นของโครงการสำรวจปิโตรเลียม Lang Lebah จาก 600-800mmscfd เป็น 800-1,000mmscfd

ปรับลดประมาณการกําไรปี 2565 / 66F ลง 4%/3%

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลงจากเดิม 4% เหลือ 4.97 หมื่นล้านบาท และปี 2566 ลง 3% เหลือ 4.57 หมื่นล้านบาท หลังจากที่เราปรับลดประมาณการปริมาณยอดขายของ PTTEP ปี 2565 ลงจากเดิม 4% เหลือ 467KBOED และปี 2566 ลงจากเดิม 7% เหลือ 463KBOED จากความล่าช้าในการเข้าพื้นที่ของโครงการเอราวัณ ส่งผลให้การผลิตก๊าซในโครงการเอราวัณต่ำกว่าระดับที่ตกลงไว้ที่ 800mmscfd เป็นเวลานาน 24 เดือนนับจากที่เริ่มสัญญา PSC ฉบับใหม่ในเดือนเมษายน 2565 ในขณะเดียวกันเรายังคงใช้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ, ราคาขายก๊าซของ PTTEP และต้นทุนต่อหน่วยของ PTTEP เอาไว้เท่าเดิม

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 เอาไว้ที่ 145.00 บาท โดยใช้ WACC ที่ 9.1% และ terminal growth ที่ 1.0% นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้จับตาการประชุม OPEC+ ในวันที่ 2 ธันวาคมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายสมาชิกของกลุ่ม OPEC+ คาดยังคงจะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมกราคมโดยไม่กังวลมากนักกับสายพันธุ์ Omicron ซึ่งจะเป็นการบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบของโลกในปีหน้าน่าจะยังคงขยายตัว

Risks ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซ

- Advertisement -