OCEAN ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ ส่งบริษัทย่อย KTDM เซ็น MOU กับพันธมิตร ทั้งเวิลด์ เมดดิคัลทัวริซึมฯ และโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี ศึกษาวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ รวมทั้งใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ พร้อมเดินหน้าผลิตยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง จับตลาดคนรักสุขภาพ ความงาม รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ รองรับความต้องของตลาดมีดีมานด์จำนวนมหาศาล ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยว่า บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OCEAN ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบริษัท เวิลด์ เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ จำกัด และบริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP เพื่อดำเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน ซึ่งมุ่งประเด็นไปที่การศึกษาวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอนาคต โดยมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2567
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเซ็น MOU ในครั้งนี้ เพื่อร่วมมือวิจัย พัฒนาและทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาจากตำรับยา และ/หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกัญชา กัญชง กระท่อม หรือพืชเสพติดที่มีคุณทางการแพทย์ เพื่อร่วมมือนำผลผลิตที่ได้จากต้นกัญชา และ/หรือ กัญชง เช่น เปลือก ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ราก และส่วนประกอบที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทางกฎหมาย มาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง
นอกจากนี้ ยังเพื่อร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีและนำผลผลิตที่ได้จากต้นกัญชา และ/หรือ กัญชง เช่น เปลือก ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ราก และส่วนประกอบที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทางกฎหมาย โดยหมายรวมถึงช่อดอกที่ดำเนินการตามกฎหมายและกระท่อม มาสกัดกลั่นด้วยเทคโนโลยี SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION และเทคโนโลยีการสกัดกลั่นอื่นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสกัดจากกัญชา เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เป็นต้น และเพื่อร่วมมือขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกัญชาเพื่อการแพทย์ กัญชง กระท่อม หรือพืชเสพติดที่มีคุณทางการแพทย์ ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
สำหรับในส่วนของบริษัท บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OCEAN จะเข้าไปมีบทบาทหน้าที่หลักในการจัดหาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสกัด อีกทั้งยังทำหน้าที่สกัดกลั่นวัตถุดิบด้วยเครื่องจักรของ KTDM ซึ่งมีเทคโนโลยีการสกัดที่ก้าวล้ำนำสมัยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ประกอบไปด้วย เทคโนโลยี SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION เทคโนโลยี Reactor & Winterization เทคโนโลยี Rotary Evaporatorเทคโนโลยี Molecular Distillation เทคโนโลยี Preparative HPLC (Prep HPLC) เทคโนโลยี Crystallizationเทคโนโลยี Ultrasonic เทคโนโลยี Spray Dry โดยสารสกัดดังกล่าวถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ KTDM เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เป็นต้น
ขณะที่บริษัท เวิลด์ เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ จำกัด มีบทบาทหน้าที่หลักในภาคีการวิจัยและพัฒนาสูตรตำรับ พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 อาทิ น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ตำรับเมตตาโอสถ และตำรับการุณย์โอสถ รวมถึงสินค้าอื่นๆ และครอบคลุมไปถึงการนำผลผลิตที่ได้จากสารสกัดกัญชา เช่น เปลือก ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ราก และส่วนประกอบที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทางกฎหมาย โดยหมายรวมถึงช่อดอกที่ดำเนินการตามกฎหมายและกระท่อม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง และมีบทบาทหน้าที่เป็นผู้รับซื้อสารสกัดจากKTDM เพื่อนำมาใช้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้า เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในอนาคต
ส่วนบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP มีบทบาทหน้าที่หลักในการร่วมวิจัยและพัฒนาสูตรตำรับ และมีหน้าที่ผลิตสินค้าต้นแบบ เพื่อขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้กับบริษัท เวิลด์ เมดดิคัลทัวริซึมฯ เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในอนาคต
“การผนึกกำลังของ 3 พันธมิตรในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ในการร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดย KTDM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OCEAN มีความพร้อมในการจัดหาวัตถุดิบ และมีเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการผลิตสารสกัด ป้อนให้กับ JP ในการผลิตสินค้า และเวิลด์ เมดดิคัล ทัวริซึม อัลไลแอนซ์ มีความพร้อมในการซื้อสารสกัด เพื่อนำไปใช้ผลิตยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ และความงาม ซึ่งตลาดมีดีมานด์จำนวนมหาศาล ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน” นายธีร กล่าว
**************************