ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปิดบวก 9 จุด แม้จะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศเพิ่มอีก 2 ราย แต่ตลาดไม่ตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าวเนื่องจากมองว่าผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง รักษาได้ และไม่เสียชีวิต หุ้นที่ปรับขึ้นเป็นกลุ่มนำดัชนีวันนี้ คือ กลุ่ม ICT

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

คาด SET แกว่งตัว 1,610 – 1,630 จุด ความคลายกังวลเชื้อ Omicron ยังคงเป็นปัจจัยบวกหลักโดยล่าสุดไฟเซอร์เผยว่าการฉีดวัคซีนเข็ม3 สามารถรับมือ Omicronได้ อย่างไรก็ตาม Fundflow ที่ผันผวนก่อนการประชุม FED  14 – 15 ธ.ค. ที่อาจลด QE ลง รวมถึงแรงขายก่อนหยุดยาว 3 วันจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • ค่าระวาง Container มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น RCL  LEO III WICE SONIC JWD
  • กลุ่มธนาคาร (BBL TTB KTB KBANK) ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
  • Domestic Play (HMPRO CPN CRC AMATA WHA BTS BEM VGI  SYNEX COM7)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • ASK (43.5IAA Consensus 47.50) ฐานกำไรทยอยยกขึ้นในทุกไตรมาส อานิสงส์จากธุรกิจออนไลน์ที่ขยายตัวหนุนดีมานด์รถบรรทุกพุ่งขณะที่ซัพพลายมีไม่พอส่งผลให้ราคารถใหม่และเก่าเพิ่มเป็นบวกกับ ASK โดยตรง
  • TH (ปิด 3.08 ซื้อ/เป้า 3.90) เปลี่ยนธุรกิจสู่การบริหารจัดการหนี้อย่างเต็มรูปแบบ 3Q21 ชนะประมูลหนี้เสียมูลค่า 3,000 ล้านบาทเริ่มทยอยรับรู้รายได้ 4Q21 ส่วนปีหน้าตั้งเป้าประมูลหนี้เพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท และอีก 6,000 ล้านบาทในปี 66  และล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจสู่การเงินดิจิทัล (Decentralized Infrastructure) เป็น Growth story ในอนาคต

บทวิเคราะห์วันนี้

LH (ปิด 9.55 ซื้อ/เป้า 10.50), Healthcare sector (Top pick: BH, BDMS)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) Covid-19บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทค แถลงผลการทดลองเบื้องต้นว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมสะท้อนว่าวัคซีนบูตเตอร์หรือเข็ม 3 สามารถป้องกันโอไมครอนได้
  • (+/-) เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาชาติมหาอำนาจและอิหร่านได้เปิดโต๊ะเจรจาต่อประเด็นปัญหานิวเคลียร์กันอีกครั้งแต่การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปเนื่องจาก ชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในยุโรประบุว่าอิหร่านเรียกร้องมากเกินไป ส่งผลให้การประชุมยุติไว้ก่อนและคาดว่าจะกลับมาเจรจากันใหม่อีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
  • (+/-) พรุ่งนี้ติดตามสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อหากยังพุ่งสูงจะเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือน พ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.8% จาก 6.2% ในเดือน ต.ค. และคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% จาก 4.6% ซึ่งทั้ง 2 ดัชนีอยู่เกินระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% ไปแล้วหากอัตราเงินเฟ้อยังพุ่งต่อเนื่องจะกดดันให้เฟดลด QE เร็วขึ้นและมีโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้เช่นกัน
- Advertisement -