Daily Focus – Selective and Laggard Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index ปิดทรงตัว -0.13 จุด ก่อนเข้าช่วงหยุดยาวและสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่พักตัว รวมถึงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 816 ลบ. และ 602 ลบ. ตามลำดับ (สถานะใน Index Futures ไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,610-1,625 จุด โฟกัสของตลาดสัปดาห์นี้อยู่การประชุมธนาคารกลางใหญ่ทั่วโลก ทั้ง FED ECB BoE โดยไฮไลท์อยู่ที่ FED ซึ่งคาดเร่งลด QE เป็น U$ 3 หมื่นล้านต่อเดือน และปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ส่วนประเด็นโอมิครอนตลาดเริ่มมองข้ามและไม่ให้น้ำหนักเชิงลบเหมือน 2 สัปดาห์ก่อนจากความรุนแรงที่ต่ำ ภาพรวมเราจึงประเมินกลุ่ม Reopening Play จะทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาวเราแนะนำ “ถือลงทุน” ต่อเนื่องที่ให้ทยอยสะสม 2 ระดับ ได้แก่ 1,590-1,600 จุด และ 1,550-1,570 จุด สําหรับ Domestic และ Reopening Play ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่ปรับลงแรงใน 2 สัปดาห์ก่อน และการฟื้นตัวยัง Laggard กลุ่มฯ และตลาดโดยรวม

กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้นที่กระทบจาก COVID-19 จำกัด และ Reopening Play ที่ยัง Laggard

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค.: BCH, JWD, MEGA, NSL, SYNEX

หุ้นเด่นวันนี้: DITTO

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท
  • แนวโน้ม 4Q21 อาจอ่อนตัว Q-Q ตามฤดูกาล แต่ยังโตต่อเนื่อง Y-Y และเป็นหนึ่งผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากเทรนด์ Digital Transformation และ Paperless ในระยะยาว
  • เราคาด EPS ปี 2021 +10% Y-Y และเร่งขึ้น +35% Y-Y ในปี 2022 โดยอยู่ระหว่างประมูลงานมูลค่ากว่า 1 พันลบ. และหลายงานจะประกาศผู้ชนะเดือนนี้เป็น Catalyst บวก
  • •แนวรับ 17-16.80 // 7.35 บาท แนวต้าน 17.50-17.70 // 18.50 บาท

Fund Flow:

2 วันทำการที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$ 131 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดอาเซียน นำโดยฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย US$ 130-168 ล้าน แต่ไหลออกจากไทยและเวียดนาม ส่วนตลาดหลักอย่างเกาหลีใต้เม็ดเงินไหลออก US$ 152 ล้าน และไหลเข้าไต้หวันบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดค่อนไปในทางไหลเข้าตามค่าเงินสกุลเอเชียแต่ยังไม่หนาแน่น โดยรอติดตามผลการประชุม FED สัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) เงินเฟ้อสหรัฐฯสูงสุดในรอบ 40 ปี ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. ออกมาเร่งตัวตามตลาดคาด +0.8% M-M, +6.8% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.5% M-M, +4.9% Y-Y ทำให้การประชุม FED ในสัปดาห์นี้ตลาดคาดว่าจะมีการประกาศปรับลดวงเงิน QE ลงเร็วกว่าเดิมเท่าตัว จากปัจจุบันที่ US$ 1.5 หมื่นล้านต่อเดือน เป็น US$ 3 หมื่นล้านต่อเดือน ซึ่งจะทำให้ QE ยุติลงในช่วงปลาย 1Q22 และคาด Dot Plot จะเห็นกรรมการส่วนใหญ่คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 ถึง 2 ครั้ง และจะเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับขึ้นทำ New High ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรายังยืนยันมุมมองว่า SET Index จะถูกกระทบจำกัดจาก Flow ที่ไม่ได้ไหลเข้าอยู่แล้วในช่วงก่อนหน้า และปัจจัยหนุนหลักยังอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เรายังคง SET Target ปีหน้าที่ 1,770 จุด Top Pick ยังเป็น CK CPALL CRC GPSC JWD TKS ORI SCB TU VRANDA

(+) MEGA เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นเดือน ธ.ค. ที่เราแนะนำ ซึ่งยังให้ผลตอบแทนติดลบ-2.4% MTD สังเกตว่าราคาหุ้นปรับลงหลังนักลงทุนเริ่มคลายกังวลกับ Omicron ประกอบกับราคาหุ้นที่ outperform ตลาดในช่วงเดือนก่อนหน้า  แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยน การขยายตลาดด้วย Brand Mega We Care ที่เป็นที่รู้จักอย่างดี ทำให้บริษัขยายฐานตลาดได้ไม่ยาก ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น 2022PE เพียง 21.8 เท่า EV/EBITDA 16.1 เท่า ถูกกว่า IP และ JP เรายังยืนยัน “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 63 บาท

(+) IVL ผู้บริหารให้มุมมองเชิงบวก 3 ปัจจัยหลักที่จะหนุนกำไรปี 2022-2023 ให้เติบโตแข็งแกร่ง +14% Y-Y และ +24% Y-Y ตามลำดับ ได้แก่ 1) ธุรกิจ IOD ได้แรงหนุนจากการเข้าลงทุนใน Oxiteno รวมถึงปริมาณขายและ Margin ที่เติบโต 2) ธุรกิจ CPET เติบโตจาก Spread PET-PTA ที่แข็งแกร่งในอเมริกาและยุโรป 3) การรับรู้ผลประโยชน์จากธุรกิจ Recycling PET จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลัง COP26 คงราคาเป้าหมาย 62 บาทแนะนำ “ซื้อ” เป็น Top Pick ในกลุ่ม Cyclical ของไทย (Source: FSSIA)

(0) คาดหุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 1H22 โดยใช้สมมติฐาน Turnover Ratio ที่ 2.5% จะได้หุ้นคาดเข้า SET50 ได้แก่ AWC TIDLOR BANPU และหุ้นคาดเข้า SET100 ได้แก่ XPG TTA TIDLOR STARK RCL KEX EPG BPP BLA AWC ส่วนหุ้นดาดออก SET50 ได้แก่ STA DELTA BJC และหุ้นคาดออก SET100 ได้แก่ TKN RS QH PTL PRM NRF ICHI DELTA BJC AAV

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 216.30 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 35,970.99 จุด หลังเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 6.8% Y-Y ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 6.7% รวมถึงดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.5% M-M ในเดือนพ.ย. และเพิ่มขึ้น 4.9% Y-Y สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน

(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคานํ้ามันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 73 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 71.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีต่อเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์น้ำมัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.1 ดอลลาร์หรือ 0.46% ปิดที่ 1,784.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 982.64 / +-

- Advertisement -