บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 
HAAD THIP ปี 2565 จะกลับมาเติบโตระดับที่ควรจะเป็น

Action

BUY (Upgrade)

TP upside (downside) +20.3%

Close Dec 14, 2021 Price (THB) 37.00

12M Target (THB) 44.50

Previous Target (THB) 41.00

What’s new?

  • คาดแนวโน้มกำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ และเติบโตสูง YoY เป็นไตรมาส 4 ท่ีแกร่งกว่าทุกปี หลังจากการคลาย Lockdown หนุนให้คนออกจากบ้านมากขึ้น และด้วยภาคท่องเท่ียวท่ีจะกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเปิดประเทศ
  • ปี 2565 บริษัทต้ังเป้าการเติบโตของรายได้ท่ีระดับ high single digit สอดคล้องกับประมาณการท่ีเราคาดไว้ และมีโอกาสท่ีจะได้เห็นสินค้ากลุ่มใหม่ นอกเหนือจากกลุ่มเครื่องดื่มอัดลม โดยเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

Our View

  • เรายังคงมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานระยะยาวของ HTC คาดปี 2565 จะทำ New High ได้ หลังปัจจัยกดดันต่างๆคลี่คลายมากขึ้น และธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายจะรับรู้รายได้ได้ชัดเจนย่ิงขึ้นหนุนผลประกอบการ
  • เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อิง EPS65 ท่ี 3.03 บาท และ PER ตามเดิมท่ี 14.8 เท่า ได้ราคา เป้าหมายใหม่ท่ี 44.50 บาท มี Upside gain 20.3% ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาปัจจุบันซื้อขายท่ี PER65 ต่ำเพียง 12.2 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มเครื่องดื่ม

HAAD THIP ปี 2565 จะกลับมาเติบโตระดับที่ควรจะเป็น จะเป็นไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่งกว่าทุกปี

หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้คนออกนอกบ้านมากขึ้น หนุนภาคท่องเที่ยวในภาคใต้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่สูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มเป็นราว 1.5 แสนคนเดือน (จาก 4Q63 ที่ราว 1 หมื่นคน) หลังมีการเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของภาคใต้ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลักที่เป็นฐานรายได้ที่สำคัญของ HTC เช่นจ.ภูเก็ต, จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น หนุนการฟื้นตัวรายได้ช่องทาง HORECA และ Modern trade ประกอบกับแผนการออกสินค้าใหม่ที่ทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการใน 4Q64 ของ HTC คาดจะกลับมาฟื้นตัว QoQ และเติบโตสูง YoY เป็นไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่งกว่าทุกปี ไม่เป็น Low Season เหมือนที่ผ่านมา เราคาดกำไรปกติเบื้องต้นที่ 130 +/- ลบ. และทำให้มีโอกาสที่กำไรปกติทั้งปีจะสูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 555 ลบ. (+1.5%)

ปี 2565 ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว มีโอกาสเห็นสินค้ากลุ่มใหม่

แนวโน้มภาคการท่องเที่ยวมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และคาดจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในปี 2565 โดยเรายังไม่คาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยวในภาคใต้ให้กลับไปในระดับเดียวกับช่วงก่อน COVID-19 อย่างไรก็ตาม เราคาดบริษัทจะยังสามารถสร้างการเติบโตทำ New High ได้ต่อ จาก 1) แผนการขยายช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัทที่เน้นช่องทาง Omni Channel และ E-commerce มากขึ้น 2) แผนการลดต้นทุนที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง 3) การออกสินค้าใหม่ และบริษัทได้เผยว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นสินค้ากลุ่มใหม่นอกเหนือจากน้ำอัดลม เช่นกลุ่ม Functional Drink และกลุ่ม Energy Drink ในปี 2565 โดยเรายังไม่ได้รวมสินค้ากลุ่มใหม่ไว้ในประมาณการ 4) ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายและธุรกิจอสังหาฯ ที่จะเริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นและเรายังไม่ได้รวมในประมาณการเช่นกัน โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้กลุ่มนี้ราว 3-5% ของรายได้รวมในปี 2565 โดยรวมบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ที่ระดับ High Single Digit ใกล้เคียงกับที่เราคาด เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 608 ลบ. เติบโต 9.6% YoY

ปรับราคาเป้าหมายขึ้น และปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

เรายังคงมุมมองบวกต่อผลประกอบการระยะยาวของ HTC ที่จะเติบโตทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อในปี 2565 แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคใต้คาดจะยังไม่กลับมาเท่าช่วงก่อน COVID-19 โดยเราได้ปรับราคาเป้าหมายไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 (จากเดิม ณ สิ้นปี 2564) อิง EPS65 ที่ 3.03 บา ทและ PER ที่ 14.8 เท่าตามเดิม ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ใหม่ที่ 44.50 บาท มี Upside gain 20.3% จึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก Trading เป็น “ซื้อ” ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 ต่ำเพียง 12.2 เท่า ประมาณการของเรายังมี Upside จากการลงทุนขยายโรงงาน และเครื่องจักรมูลค่า 1,200 ลบ. ทำให้บริษัทจะมีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ขวด PET เพิ่มขึ้นราว 30% โดยคาดจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วง 2H66 เป็นต้นไป และเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

- Advertisement -