ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ฟื้นตัว แต่ทางขึ้นน่าจะยังจำกัด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ รีบาวด์ แต่ทางขึ้นยังน่าจะจำกัดอยู่….ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 0.43% (อ่อนแอกว่าที่เราคาด) ตามประเด็นข่าวเรื่องภาครัฐฯ อาจเก็บภาษีซื้อขายหุ้นและในช่วงบ่ายตลท. แถลงผลการทำเฮียริ่งมาตรการคุมเข้มหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง (market surveillance report 3 ระดับ) ส่งผลให้หุ้นขนาดเล็กเผชิญแรงขายลดความเสี่ยง ขณะที่ในวันนี้มีปัจจัยบวกจากความชัดเจนของผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) i) เฟดจะเร่งการทำ QE tapering จาก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เป็น 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ และน่าจะยุติมาตรการ QE ในเดือน มี.ค. 2555 ii) กรรมการเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 ขึ้น 2 ครั้งในปี 2566 และอีก 2 ครั้งในปี 2567 รวมทั้ง 3 ปีเท่ากับว่ากรรมการเฟดมองวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้ 7 ครั้งด้วยกัน ทั้งนี้แถลงการที่ค่อนข้างชัดเจนของเฟด ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยเช้านี้ แต่นักลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะสถานการณ์ของสายพันธุ์ Omicron ทั่วโลกและในประเทศไทย … ด้านปัจจัยภายในเช้านี้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 3,684 ราย เสียชีวิต 26 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 4,531 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร ECL, BEC*, SCGP*

  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.8 บาท / แนวต้าน 3.0-3.2 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 3.5 บาท (Stop loss 2.6 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไรปี 2565-66 จะเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปีนี้จากการ i) ปรับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจนทำให้หนี้เสียลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ii) เดินแผนขยายพอร์ตเชิงรุกไปยังธุรกิจใหม่ๆ ต้นปี 2565 ได้แก่ ธุรกิจจำนำทะเบียนรถ (เน้นลูกค้าเก่าประวัติดี / ผ่อนรถครบแล้ว) และสินเชื่อรถอีวี (จักรยานยนต์และรถเพื่อการพาณิชย์) ทำให้คาดแนวโน้มกำไรจะเติบโต 18% CAGR (2564-67) 3) ประเมิน PBV จะถูก Re-rate ขึ้นตามแนวโน้มการปรับขึ้นของ ROE (จาก 3.5% ในปี 2563 เป็น 10.9% ในปี 2567) … ราคาเป้าหมายของเราอิง PBV 2 เท่า
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.2 บาทและ 130 บาท / แนวต้าน 13.6-13.8 บาทหากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14.2 บาท (Stop loss 12.7 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 4Q64 ฟื้นตัว QoQ โดยประเมินอัตราการขายโฆษณาพ้นจุดต่ำสุดใน 3Q64 แล้ว ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 คาดจะเติบโต +34% YoY จาก i) รายได้ค่าโฆษณาเติบโต ii) การผลิตรายการละครใหม่ๆ เริ่มกลับมาได้ หลังจากที่ชะลอไปใน 3Q64 (ช่วงล็อคดาวน์) 3) ประมาณการฯ มี Upside จากธุรกิจใหม่ เพลง ภาพยนต์ และการปรับขึ้นค่าโฆษณา
  • SCGP* (เป้าพื้นฐาน 70.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 63.5 บาท / แนวต้าน 65.5-66.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 70 บาท (Stop loss 62.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 จะเริ่มฟื้นตัว QoQ หลังสถานการณ์โควิด -19 ในหลายประเทศในอาเซียนเริ่มผ่อนคลาย หนุนการบริโภคและอัตราการผลิต (เป็นบวกต่อ Demand บรรจุภัณฑ์) 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกําไรปี 2565 โต +29% YoY โดยประเมินว่ามีประมาณการฯ นี้ยังมี Upside จากการซื้อกิจการใหม่เพิ่มเติม 4) Forward PE ปี 2565 เท่ากับ +27 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ราว +/- 29 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) คืนความเป็นธรรม GULF* เดินหน้า 5 พันเมกเต็มสูบ ห้ามยกเลิก PPA โละรายงานผลสอบยุคคสช. (ข่าวหุ้น) GULF* เดินหน้าโครงการ IPP ขนาด 5,300 เมกะวัตต์ หลังศาลปกครองสูงสุดคืนความเป็นธรรมมีคำสั่งโละรายงานผลสอบยุคคสช. ให้ “กระทรวงพลังงาน” ยกเลิกหนังสือ BOI เพื่อชะลอการส่งเสริมลงทุนโครงการ พร้อมห้ามยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อีกต่อไป

(+) อัดแพ็คเกจหั่นราคาอีวี 20% บอร์ดยานยนต์ไฟฟ้าชงครม. ธันวาฯ นี้ ลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 2% (กรุงเทพธุรกิจ) ตั้งเงื่อนไขนำเข้า 1 คัน ต้องผลิตในไทย 1.5 คัน “รัฐบาล” เตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นตลาด “อีวี” ชงครม. เคาะแพ็คเกจส่งเสริม 2 กลุ่ม รถต่ำกว่า 2 ล้านลดราคา 20% อุ้มผ่านลดภาษีนำเข้านั่นสรรพสามิตเหลือ 2% ใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ อุดหนุนราคาด้านรถราคาเกิน 2 ล้านได้ส่วนลดน้อยกว่า “อาคม” ชี้เป็นมาตรการหนุน 5 ปี ให้เวลาผู้ผลิตปรับตัว 10 ปี ตั้งเงื่อนไขมีแผนผลิตในประเทศเร่งชงครม.ใน ธ.ค. นี้

(+) HUMAN ซื้อ Data On กำไรปีหน้าโต 25% (ข่าวหุ้น) บอร์ด HUMAN ไฟเขียวซื้อกิจการกลุ่ม “Data On” มูลค่า 1,991.53 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติ 1 มี.ค. 65 โดยชำระเป็นหุ้นเพิ่มทุนมูลค่าไม่เกิน 1,986.90 ล้านบาท และเงินสด 4.63 ล้านบาท ให้แก่ผู้ขายกิจการ คาดกระบวนการแล้วเสร็จไตรมาส 1/65  หนุนรายได้โตปีละ 20% ดันกำไรสุทธิปี 65 โต 25%

(+) เงินโฆษณาปี 65 พุ่ง คาดทะลุ 8.45 หมื่นล. (เดลินิวส์) นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการบริษัท  มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ หรือ เอ็มไอ เปิดเผยว่าในปี 65 คาดว่าภาพรวมการใช้เงินโฆษณาเติบโตขึ้น 13% อยู่ที่มูลค่า 84,250 ล้านบาท จากแบรนด์สินค้าเริ่มมั่นใจใช้เงินมากขึ้น โดยใช้ในสื่อทีวีประมาณ 40,000 ล้านบาท สื่อออนไลน์ 27,000 ล้านบาท และสื่อนอกบ้านฟื้นตัวดีขึ้นหากไวรัสโควิด 19 คลี่คลาย จากสิ้นปี 64 นี้คาดว่าตลาดติดลบเล็กน้อยที่ 0.8% ในมูลค่า 74,550 ล้านบาท หลังจาก 11 เดือนที่ผ่านมามีการใช้เงินโฆษณาไปแล้ว 68,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 63

(+) MAKRO เพิ่มทุน PO ฉลุย! โชว์ระดมเงิน 5 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) MAKRO ปิดดีลใหญ่ขายหุ้นเพิ่มทุน PO ฉลุย! นักลงทุนสนใจเป็นจำนวนมาก สามารถระดมทุนได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทผนึก “โลตัสส์” ขยายธุรกิจไปในอาเซียนและภูมิภาคเอเชียใต้

(+) OR* ผุดกองทุนสตาร์ทอัป (ไทยโพสต์) จับมือไลน์แมน Wongnai ต่อยอดดเดลิเวอรี่ โออาร์ ร่วมกรุงศรี ฟินโนเวตและ SET ผุดฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ กองทุนสตาร์ทอัปกองแรกของไทยที่เปิดรับนักลงทุนจากภายนอก พร้อมจับมือไลน์แมนวงใน “ต่อยอดดเดลิเวอรี่ในปั๊ม”

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 14.3 บาท / แนวต้าน 14.8-15.3 บาท (Stop loss 14 บาท)
  • SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) แนวรับ 9.55 บาท / แนวต้าน 9.85-10.2 บาท (Stop loss 9.3 บาท)
  • OCEAN (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 1.63 บาท / แนวต้าน 1.70 -1.76 บาท (Stop loss 1.62 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 173 บาท) แนวรับ 137.5 บาท / แนวต้าน 140-143 บาท (Stop loss 136 ■. บาท)
  • GFPT (เป้าพื้นฐาน 12.8 บาท) แนวรับ 12.1 บาท / แนวต้าน 12.4-12.6 บาท (Stop loss 12 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) แนวรับ 58.25 บาท / แนวต้าน 60.25-62.5 บาท (Stop loss 58 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มโรงพยาบาล น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาด” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลจะเริ่มชะลอตัวลงใน 4Q64 และในปี 2565 หลังจากที่โตเด่นในช่วง 9M64 ที่ผ่านมา (รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด -19) โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็กที่คาดอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงในปี 2565 หุ้นเด่นเลือก BDMS* … อ่านรายละเอียดหุ้นรายตัวในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม
  • กลุ่มสื่อ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ยอดใช้จ่ายโฆษณาในเดือน พ.ย. +4% MoM, -8% YoY สำหรับภาพรวมแนวโน้มผลการดำเนินงานกลุ่มสื่อใน 4Q64 คาดว่าจะเติบโตแบบ QoQ แต่ชะลอตัวลง YoY ขณะที่คาดแนวโน้มปี 2565 จะฟื้นตัวกลับมาได้ตามภาวะเศรษฐกิจ หุ้นเด่นเลือก PLANB*

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -