บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Chularat Hospital (CHG.BK / CHG TB)* กำลังจะผ่านช่วงที่ผลประกอบการดีเลิศในปี 2564F ไปแล้ว
Event
ปรับเพิ่มประมาณการก้าไรปี 2564F
Impact
ผ่านช่วงที่ผลการดำเนินงานดีที่สุดไปแล้วในงวด 9M64
กำไรสุทธิของ CHG ใน 3Q64 ออกมาน่าประทับใจที่ 1.56 พันล้านบาท (+455.0% YoY, +171.4% QoQ) เนื่องจาก i) รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ii) อัตรากำไรขั้นต้นสูงเกินคาดที่ 50.8% ใน 3Q64 (จาก 35.6% ใน 3Q63 และ 41.8% ใน 2Q64) และ iii) คุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยสัดส่วน SG&A/รายได้อยู่ที่ 7.7% เท่านั้น (จาก 11.7% ใน 3Q63 และ 9.9% ใน 2Q64) สำหรับงวด 9M64 รายได้ของ CHG อยู่ที่ 7.88 พันล้านบาท (+100.8% YoY) โดยรายได้จากทั้งบริการ OPD, IPD และ NHSO เพิ่มขึ้น YoY (ยกเว้น SSO) จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดระลอกสองและสามในประเทศไทย นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของ CHG ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 44.7% จาก 31.6% ในงวด 9M63 ซึ่งเมื่อมองจากภาพใหญ่พบว่า CHG เป็นหนึ่งในหุ้นหลักที่ได้อานิสงส์จากการระบาดของ COVID-19 ในปี 2564 จากบริการที่หลากหลาย (ได้แก่ การตรวจ, การกักตัวในโรงพยาบาล และการรักษาผู้ป่วย COVID) นอกจากนี้เรายังพบว่า CHG ได้อานิสงส์จากโรงพยาบาลที่เปิดใหม่สองแห่งด้วย (จุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา)
คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q64F จะแผ่วลง QoQ
เช่นเดียวกับโรงพยาบาลอื่นๆ เราคาดว่าโมเมนตั้มด้านบวกของ CHG จะแผ่วลงจากสถานกาณ์ COVID-19 ตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง ดังนั้น ผลประกอบการของ CHG ใน 4Q64 จะมีแนวโน้มแผ่วลง QoQ
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY64F ขึ้นจากเดิม 28.4%
CHG มีผลประกอบการออกมาดีเกินคาดในงวด 9M64 ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY64F ขึ้นจากเดิมโดย i) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ YoY ขึ้นจากเดิม 8.8% ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 46.1% (จากเดิม 43.3%) เพื่อสะท้อนแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่งเกินคาด iii) ปรับลดสมมติฐานสัดส่วน SG&A/รายได้ลงเหลือ 9.0% (จากเดิม 12.0%) จากการประหยัดต่อขนาดของบริการตรวจ COVID-19 และบริการกักตัวในปี 2564 ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เป็น 2.98 พันล้านบาท (+ 240.1% YoY) จากเดิมที่ 2.32 พันล้านบาท (+164.9% YoY) แต่เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เอาไว้ที่ 1.78 พันล้านบาท (-55.2% YoY)
Valuation & Action
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการ โดยคาดว่ากำไรจะออกมาเป็นพิเศษในปีนี้ และกลับมาอยู่ระดับปกติในปี 2565 ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ ถือ โดยคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 4.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%)
Risks COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่