BGRIM เดินหน้าขยายการพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนในสาธารณรัฐเกาหลี ส่งบริษัทย่อยเข้าทำการซื้อหุ้น 49.9% ใน KOPOS Co., Ltd. ภายใต้มูลค่าการซื้อขายหุ้นรวม 3,5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มุ่งสู่ความสำเร็จตามแผนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ระบุถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่มุ่งขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ภายใต้รูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐ ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจากจำนวน 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 ให้เพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 มุ่งสู่เป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ ให้สำเร็จภายในปี 2573 มีรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท

 

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ B.Grimm Power Korea Limited (บริษัทย่อยที่  BGRIM ถือหุ้น 100%) เข้าทำการซื้อหุ้น 49.9% ใน KOPOS Co., Ltd. ภายใต้ Share Sale and Purchase Agreement กับ Renewable Energy Korea Co., Ltd. ในฐานะผู้ขาย ภายใต้มูลค่าการซื้อขายหุ้นรวม 3,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวยังขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลของสาธารณรัฐเกาหลี

สำหรับการเข้าร่วมลงทุนใน KOPOS Co., Ltd. ในครั้งนี้ ทำให้ BGRIM มีส่วนร่วมเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวม 95.78 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งถือเป็นอีกความสำเร็จต่อการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานทดแทนของบริษัทให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ ปัจจุบันสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการวางแผนพลังงานทดแทนไว้อย่างชัดเจน มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาประเทศเข้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) และการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Growth) ตามแผน carbon neutrality ให้บรรลุผลสำเร็จภายในปี 2050

สำหรับการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม รวมถึงระบบการกักเก็บพลังงาน ESS เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ BGRIM ที่มุ่งขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ภายใต้รูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อให้บริการไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง อันเป็นรากฐานสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ BGRIM เป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 74% และจากพลังงานทดแทนประมาณ 26%

“ปัจจุบัน BGRIM มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 50 โครงการ และตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจากจำนวน 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 ให้เพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยมุ่งสู่เป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ ให้สำเร็จภายในปี 2573 และมีรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว

*********************************

- Advertisement -