Our View? ”พักบ้างอะไรบ้าง”

คาดตลาดวันนี้ “แกว่งออกข้าง” มองแนวรับที่บริเวณ 1,640 /1,630 และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 / 1,660 ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อคืนนี้ยังคงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่างๆ ไว้ที่ระดับเดิม ขณะที่ระบุจะคงเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในช่วง 2Q’65 และลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรใน 3Q’65 และคงวงเงินในระดับ 2 หมื่นล้านยูโรต้ังแต่เดือน ต.ค.’65 อย่างไรก็ตาม ECB จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และยุติโครงการดังกล่าวในเดือน มี.ค.’ 65 เรามองเป็นการปรับเปลี่ยนท่าทีของนโยบายทางการเงินที่สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐ สะท้อนมุมมองธนาคารกลางหลักของโลกเริ่มทยอยลดการผ่อนคลายนโยบาย % ทางการเงินคาดจะส่งผลให้กระแสเงินทุนส่วนเกินในระยะถัดไปลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นปัจจัยจำกัด Upside ตลาดในระยะกลางได้บ้าง ขณะท่ีเราคาดว่าตลาดอาจจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากแรงขายทำกำไรของสินทรัพย์เสี่ยง หลังปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า จากการผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับไวรัส Omicron รวมทั้งผล ประชุม FOMC ของ FED เป็นไปตามท่ีคลาดคาด โดยจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ FED ยุติการทำ QE ลงในเดือน มี.ค. เพื่อเตรียมปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือน มิ.ย. ขณะที่ Dot Plot ของ FED มีการคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ม.ค. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวขึ้นได้บ้างปิดท่ี 72.38 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.51 ดอลลาร์ (+2.13%) ยังคงได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนอุปสงค์น้ำมันท่ีแข็งแกร่งของสหรัฐ คาดจะช่วยหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ข้ึนได้บ้าง  ขณะที่ค่าการกลั่นยังคงยืนตัวได้ในระดับสูง คาดจะหนุนหุ้นโรงกลั่น (TOP, SPRC และ ESSO) ฟื้นตัวกลับข้ึนได้บ้าง

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ ยังคงแนะนำติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสุดท้ายของปีนี้ อาทิ โครงการช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง คาดจะออกมาในช่วงสัปดาห์นี้-หน้า คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและธนาคาร รวมทั้งเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย อีกทั้งแนะนำติดตามการออกมาตรการกระตุ้นการใช้รถไฟฟ้าในช่วงปีหน้า คาดรัฐจะให้เงินสนับสนุนในการซื้อรถยนต์ EV ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 20% มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มยานยนต์ (AH และ SAT) และช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (HANA และ KCE)

รวมท้ังติดตามร่าง PDP ปี’65 คาดจะมีการเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มข้ึน โดยเฉพาะพลังงานน้ำ ,ลม และขยะเพิ่มข้ึน เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันน้ี “GUNKUL”

แนวรับ 5.10 / 5.00 Target 5.40 / 5.60 Stop <4.96

- Advertisement -