สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ราว -5 ถึง -7 จุด ดัชนีพักตัวหลังจากปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง ประกอบกับดัชนีติดแนวต้านทางเทคนิคบริเวณ 1,645 จุด ทำให้มีแรงขายออกมาก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด เป็นแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนช่วงปิดตลาดมีปรับหุ้นเข้า-ออก ดัชนี FTSE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,641.73 จุด -3.59 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 96,453 ลบ.ต่างชาติ -15.55 ลบ. TFEX -5,714 สัญญา ตราสารหนี้ +1,348.88 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ลุ้นการประชุมครม.พรุ่งน้ี พิจารณามาตรการกระตุ้น ศก.เพิ่มเติม “คนละครึ่งเฟส 4 ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี

+รัฐบาลเล็งสนับสนุนประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยกให้อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และคงความเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)

+/-ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2,525 ราย ATK 469 ราย เสียชีวิต 31 ราย พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในไทย แล้ว 63 ราย รอยืนยันอีกกว่า 20 ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ปิดร่วงลง 532.20 จุด -1.48% จากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สัปดาห์ท่ีแล้วดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 1.7% เช้านี้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุด กังวลผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดเกือบ 90 ประเทศท่ัวโลก รวมถึงการตัดสินใจของ FED ที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วข้ึน

– ราคาน้ำมัน WTI ในรอบสัปดาห์ ลดลง 1.1% ปิด 70.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เช้านี้ร่วงลงอีกกว่า 2.5% หลุดจากระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลว่าการแพร่ระบาดของโควิด

– WHO เปิดเผยว่าขณะน้ีมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนแล้วใน 89 ประเทศ และประเมินว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโอ มิครอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 1 วันครึ่งถึง 3 วัน

– บริษัทไฟเซอร์ อิงค์คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะดพเนินต่อไปจนถึงปี 2567

-อังกฤษจัดประชุมฉุกเฉินกับผู้นพภาคธุรกิจหารือการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด

-ธนาคารกลางหลายประเทศ ได้แก่ อังกฤษ รัสเซีย นอร์เวย์ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยขานรับศก.ขยายตัว และสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ นลท.คาด FED มีแนวโน้มข้ึนดอกเบี้ยเร็วสุดในเดือนมี.ค.65

– สำนักงานต่อต้านการผูกขาดตลาดแห่งชาติจีนจะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายต่อพฤติกรรมผูกขาดตลาด และผลักดันกฎหมายต่อต้านการผูกขาดฉบับท่ีแก้ไขแล้ว เพื่อพัฒนากรอบการกำกับดูแลให้มีความเข้มงวดมากกว่าเดิม

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความวิตกกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน โดยล่าสุดเนเธอร์แลนด์สั่งล็อกดาวน์อีกรอบช่วงคริสต์มาส ขณะท่ีสถานการณ์ในประเทศมีการ ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มเติม มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,617-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่มีเข้าคำนวณ SET50 รอบ 1H65 : หุ้นเข้า AWC BANPU TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR TTA หุ้นออก BJC DELTA AAV ICHI JAS NRF PRM PTL PSL TKN
  • หุ้นท่ีได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาลของโควิด-19 STGT VIBHA BCH EKH CMR SMD WINMED PHOL

หุ้นรายงานพิเศษ

TNH (อยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณการและราคาเหมาะสมจากเดิม 35.50 บาท)

  • งวด 1Q65 (ส้ินสุด 31 ต.ค. 64) กำไรสุทธิ 141 ล้านบาท +19%QoQ +101%YoY ทำ New high นับตั้งแต่ก่อต้ังบริษัท เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในท่ีใช้สิทธิ UCEP รับไว้ในสถานพยาบาลเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่เป็นเครือข่ายเพิ่มข้ึน การให้บริการสถานท่ีกักตัวทางเลือก (ASQ) และสถานที่กักตัวในชุมชน (Community Isolation) รวมถึงรายได้จากการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มีรายได้ค่ารักษาพยาบาล 693 ล้านบาท +15%QoQ +39%YoY %GP ปรับดีข้ึนสู่ 33% จาก 32% ใน 4Q64 และ 26% ใน 1Q64 เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ท่ีมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง กำไร 1Q65 คิดเป็น 44% ของประมาณการกำไรเดิมปี 65 ที่ 320 ล้านบาท และเตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไร
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอและแนวโน้มการเพิ่มข้ึนของรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ที่ 15.8 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่ม mai ที่ระดับ 52 เท่า และ P/E กลุ่มโรงพยาบาลใน SET ท่ีระดับ 30.5 เท่า แนะนำ ซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) BGRIM (Bloomberg Consensus 55.00 บาท) เซ็นโครงการไฟฟ้าก๊าซเวียดนาม (LNG-to- Power) ขนาด 3,600 เมกะวัตต์ ใน มุย เค กา (MKG) ใกล้กับศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญนอกเมืองโฮ จิมินห์ ซิตี้ เฟสแรก 1,800 เมกะวัตต์ เร่ิมปี 2568 ลั่นโอกาสคว้าอีกนับหมื่นเมกะวัตต์ พร้อมเจรจา PPA โรงไฟฟ้าพลังงานลม 120 เมกะวัตต์ ลุยธุรกิจสายส่งในเวียดนาม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WINMED (Bloomberg Consensus – บาท) ปักเป้ารายได้ปี 65 โตก้าวกระโดดแตะ 835 ล้านบาท รับแรงหนุนธุรกิจเทรดดิ้งโตต่อเนื่อง เตรียมคลอดโปรดักต์ใหม่ทำเงินเพิ่ม ชี้ไตรมาส 4/64 ผลงานพีคสุดของปี ไฮซีซันหนุน พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ “WINMED LAB” ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธ์ุ (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 5.75 บาท) GUNKUL จับมือ JMART-SINGER ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทย่อยภายในไตรมาส 1/65 รุกช่องจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น พัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชง ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟและสถานีชาร์จรถไฟฟ้า หวังสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ ด้านเจ มาร์ท ส่งซิงเกอร์ฯ และเคบีเจ แคปปิตอล เข้ามาปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้ากันกุลฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PJW (Bloomberg Consensus – บาท) โชว์งานชิ้นส่วนพลาสติกยานยนต์รอส่งมอบเพียบ ส่วนธุรกิจกลุ่มการแพทย์คาดกวาดรายได้เพิ่ม 1 พันล้านบาท ภายใน 3 ปี ส่วนปีหน้า 300 ล้านบาท ส่งซิกธุรกิจจีนปีหน้าพลิกทำกำไร มั่นใจผลงานปี 64 รายได้เติบโตแตะ 12% ส่วนปี 65 ดันรายได้โต 12-15% (ท่ีมา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 20 ธ.ค. ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
  • 22 ธ.ค.ประชุม กนง.ครั้งที่ 8/2564
  • สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 20 ธ.ค.ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

อียูรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ต.ค.

สหรัฐรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.

  • 21 ธ.ค. สหรัฐเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2564
  • 22 ธ.ค. สหรัฐรายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือน พ.ย.จากเฟดชิคาโก ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 3Q64 สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 23 ธ.ค. สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือน ธ.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- Advertisement -