Daily Focus – Selective Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
SET Index ปรับขึ้นและอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวันตามตลาดหุ้นในภูมิภาค และได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยขึ้นไปบวกสูงสุด 10 จุดในช่วงเช้า สิ้นวันปิดบวก 4.54 จุด ปริมาณการซื้อขายเบาบางลงเหลือเพียง 6 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้น 273 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่อง แต่เบาบางลงมากเหลือ 497 ลบ. (และ Long Index Futures 2,990 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้:
เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways ถึง Sideways up ในกรอบ 1,620-1,635 จุด วอลุ่มการซื้อน่าจะเบาบางใกล้เคียงวานนี้เพราะเข้าใกล้สิ้นปี นักลงทุนทยอยลดพอร์ตลดความเสี่ยงบางส่วน ตลาดยังไม่มีข่าวลบใหม่ๆ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนมีสัญญาณบวก 3Q21 GDP +2.3% QoQ annualize สูงกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +2.1% ทั้งที่การระบาดของเดลต้าฉุดการใช้จ่ายยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. และเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 อังกฤษลดเวลากักตัวจาก 10 วันเหลือ 7 วัน หากผลตรวจเชื้อเป็นลบและให้วงเงินช่วยธุรกิจเพิ่ม และผลวิจัยของสถาบันโรคติดต่อในแอฟริกาใต้เผยว่า ความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ติดเชื้อเดลต้า 80% ถ้าเข้าโรงพยาบาลโอกาสที่จะรุนแรงก็น้อยกว่า 30% ส่วนสถานการณ์ในไทยยังต้องเฝ้าระวังผู้ติดเชื้ออาจเร่งตัวในช่วงคาบเกี่ยวเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัย Overhang หุ้นกลุ่ม Reopening Play อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีแรงประคองจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายในปีหน้า ทั้งช้อปดีมีคืน และคนละครึ่งเฟส 3 ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่กระทบจาก COVID-19 จำกัด และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ส่วนระยะกลางยาวยังมองระดับ 1,600 จุด หรือต่ำกว่าในการเข้าสะสม และยังเน้น Domestic และ Value Play เป็นหลัก
กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงกระทบจาก COVID-19 จำกัด
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค.: BCH, JWD, MEGA, NSL, SYNEX
หุ้นเด่นวันนี้: NSL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
- แนวโน้ม 4Q21 จะตัวฟื้นแรงตามการ Reopen และโดยเฉพาะปัญหา Supply Chain ที่หมดไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และ Margin ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ
- เราคาดกําไรปี 2021 +25% Y-Y และเร่งตัวปีหน้า + 4% Y-Y โดยระยะถัดไปคาดจะเติบโตในกัมพูชาตาม 7-11 เช่นกัน
- แนวรับ 18.50 บาท แนวต้าน 19.50 // 20 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่อง แต่เม็ดเงินเบาบางลงเป็น US$ 421 ล้าน เม็ดเงินเกือบทั้งหมดไหลเกาหลีใต้ US$ 371 ล้าน ส่วนไต้หวันไหลเข้าเบาบางลงมาเหลือ US$ 56 ล้านส่วนอาเซียนไหลเข้าไทยตลาดเดียว US$ 15 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังไหลเข้าจาก Flow ที่ยังเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่อ เนื่องนักลงทุนคลายความกังวลโอมิครอน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กนง. มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยวานนี้ และปรับ GDP ปีนี้ขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.9% (เดิม 0.7%) ปรับลดปีหน้าเล็กน้อยเป็น 3.4% (เดิม 3.9%) และปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวปีหน้าลงเล็กน้อยเป็น 5.6 ล้านคน (เดิม 6 ล้านคน) โดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก มอง Omicron กระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2022 แต่ความรุนแรงและยืดเยื้อน่าจะมีโอกาสน้อย ทิศทางเศรษฐกิจปี 2022 ฟื้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เงินเฟ้อแม้จะเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกรอบล่างของเป้าหมาย 1-3% เราคิดว่ากนง. คงดอกเบี้ยตลอดทั้งปีหน้า เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หุ้นกลุ่ม Reopening & Value plays ยังเป็น Theme ที่แนะนำ
(-) GFPT สถานการณ์โดยรวมยังฟื้นตัวช้า แม้ราคาไก่ในประเทศจะฟื้นแรงเป็น 38-40 บาท/กก. จากไตรมาสก่อนที่ 32-33 บาท/กก. และปริมาณส่งออกเริ่มฟื้น แต่ยังไม่พอหักล้างวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น และปัญหา Container Shortage ได้หมด คาด 4Q21 ยังขาดทุนราว 50-60 ลบ. แม้ยังลุ้นพลิกเป็นคุ้มทุนได้ใน 1Q22 แต่ยังต้องจับตาดูโอมิครอนว่าจะกระทบการส่งออกหรือไม่ เราคาดกำไร 2Q22-3Q22 จะเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง เบื้องต้นยังคงราคาเป้าหมาย 14 บาท และมองปลาย 1Q22 เป็นจังหวะเข้าลงทุน
(+) WFX เข้าเทรดวันนี้ เป็นผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเสื้อผ้าและสิ่งทอ และด้วยผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานจำกัด ทำให้ลักษณะรายได้ส่วนใหญ่เป็น Recurring นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์ขยายตลาดไปยังทวีปอื่นนอกจากจีน จากปัญหาสินค้าขาดตลาดเนื่องด้วย COVID-19 เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 2021-2022 จากสภาวะตลาดที่ Demand-Supply ยังไม่กลับสู่จุดสมดุล คาดกำไรปี 2021-2024 +10% ประเมินราคาเป้าหมายปี 2022 9.50 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจําหน่ายฯ)
(+) JMT-KBANK จับมือจัดตั้ง JV ทำ 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจติดตามหนี้ (Debt collection business) และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (AMC) โดย JMT จะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% และ KBANK ถือมากกว่า 50% ทั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจาก ธปท. เรามองเป็น win-win ทั้งคู่ กำไรของ JV แทบไม่มีนัยต่อ KBANK แต่ธนาคารจะได้ประโยชน์มากกว่าจากการตั้งสำรองหนี้เสียลดลง ส่วน JMT ได้ทั้งปริมาณ NPL มาบริหารและแหล่งเงินทุนจาก KBANK กำไรอาจมี upside 2-4% เราชอบทั้งคู่ JMT ยังคงเป็น Top pick คงราคาเป้าหมาย 70 บาท และ KBANK ราคาเป้าหมาย 172 บาท (Source: FSSIA)
(0) หุ้นเข้า-ออก SET50 / SET100 งวด 1H22 หุ้นที่เข้า SET50 ได้แก่ AWC TIDLOR BANPU หุ้นออก ได้แก่ BJC DELTA STA ส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR STA ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ DELTA BJC PSL JAS PTL PRM ICHI AAV NRF TKN
(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 261.19 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 35,753.89 จุด หลังมีผลการศึกษสถาบันอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา 40%-45% รวมถึงรายงาน GDP 3Q21 ของสหรัฐขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่สองที่ 2.1% ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับขึ้น 1.9% M-M เป็น 6.46 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน
(+) ตลาดเอเชีย ปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และฟื้นตัวหลังปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า จากความกังวลเกี่ยวกับโอมิครอน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า ขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์หรือ 2.3% ปิดที่ 72,76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.7 ล้านบาร์เรลเป็น 423.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์หรือ 0.75% ปิดที่ 1,802.2 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 973.63 / -4.94
