ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งขึ้นต่อลุ้นทดสอบ 1,650 จุด
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งขึ้นต่อ มีโอกาสทดสอบระดับสำคัญจิตวิทยา 1,650 จุดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยบวกแรงกว่าที่เราคาด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนว่า COVID-19 สายพันธุ์ Omicron น่าจะมีแรงกดดันไม่มากต่อระบบสาธารณสุข เนื่องจากอัตราการป่วยหนักและอัตราการเข้ารักษาตัวใน ร.พ. ต่ำกว่าของสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ฟันด์โฟลว์ดูแข็งแกร่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเช่นกัน ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมยังคงเป็นบวก i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวต่อเมื่อคืนนี้ หลังจากไม่มีสัญญาณการคุมเข้มหรือล็อกดาวน์เพิ่มเติมอย่างน้อยจนถึงหลังเทศกาลปีใหม่ 2565 ส่งผลให้เม็ดเงินกลับเข้าเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ตลาดการเงินไม่ตกใจต่อเงินเฟ้อที่ยังขึ้นต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯรายงาน Core PCE inflation พ.ย. เพิ่มขึ้น 4.7% YoY สูงกว่าที่ consensus คาดที่ 4.5% YoY … ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯจะทำจุดสูงสุดในไตรมาส 1/2565 และค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ ขณะที่ตลาดการเงินได้คาดหมายไปแล้วว่า ธ. กลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 ด้านปัจจัยภายในประเทศเมื่อคืนนี้ มีกระแสข่าวลือว่าอาจมีการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศในวันนี้ ซึ่งรัฐบาลได้แถลงแล้วเมื่อกลางดึกว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และการประชุมศบค. ชุดใหญ่ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ม.ค. 2565
หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร INTUCH*, EPG*, OTO
- INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 76 บาท / แนวต้าน 80-81 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 84 บาท (Stop loss 73 บาท) 2 ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มกำไร 4Q64 จะโต YoY, QoQ หนุนโดยกำไรจาก ADVANC ขณะที่คาดปี 2565 INTUCH กำไรจะกลับมาเติบโต +8.3% YoY ได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่กำไรลดลงมา 3 ปีติดต่อกัน 3) คาดจ่ายปันผลสำหรับ 2564 ราว 1.25 บาท/หุ้น (Dividend yield 1.6%) และคาดในผลสําหรับปี 2565 เท่ากับ 2.75 บาท/หุ้น (Dividend yield 3.6%)
- EPG* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.0 บาท / แนวต้าน 11.4-11.9 บาท (Stop loss 10.7 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มราคาเม็ดพลาสติกจะเริ่มปรับลดลงใน 1Q65 จากกำลังการผลิตใหม่จากจีนและสหรัฐฯที่จะเพิ่มขึ้น คาดเป็นบวกต่อ EPG* (ต้นทุนการผลิตลดลง) 3) ประเมินแนวโน้มยอดขายทั้ง 3 ธุรกิจฟื้นตัวเด่นในปีหน้า (ฉนวนยางพื้นตามการลงทุน โดยเฉพาะที่สหรัฐฯชิ้นส่วนยานยนต์ฟื้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ บรจุภัณฑ์ฟื้นตามการบริโภคในประเทศ)
- OTO (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 13.6 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14.2 บาท (Stop loss 12.0 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการลงทุนในธุรกิจด้านดิจิทัล โดยล่าสุด i) เตรียมเข้าลงทุนในบริษัทบล็อกเชนไพรม์โฮลดิ้ง “สัดส่วน 20% (เซ็น MOU แล้วคาดสามารถสรุปการลงทุนได้ใน 1Q65) ซึ่งเป็นธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์ม Blockchain Solutions ในโครงการ” Social Bureau ” และ ii) ร่วมทุน JV กับ IP ทําธุรกิจ Telepharmacy (จําหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพรวมถึงการให้คําปรึกษาด้านเภสัชกรออนไลน์) … ทั้งนี้นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร OTO-W1 (แนวรับ 5.9 / แนวต้าน 6.25-6.50 บาท / Stop loss 5.7 บาท) โดยราคาปิด OTO-W1 วานนี้มี Upside จากราคาเหมาะสมราว 60% (ราคาเหมาะสม 9.5 บาท คํานวณโดย BS model / โปรแกรม Aspen)
หุ้นมีข่าว
(+) รัฐอุดหนุนซื้อ “วี” คันละ 1.5 แสน ซึ่งมาตรการ 4 ปีตั้งงบ 4 หมื่นล้าน ‘สุพัฒน์พงษ์” มั่นใจบูมตลาด (กรุงเทพธุรกิจ) สอท. หนุนเฉพาะรถนำเข้า แนะเพิ่มส่งเสริมผู้ผลิตในไทย “สุพัฒนพงษ์” เตรียมชงครม. เคาะมาตรการหนุนสัปดาห์หน้า มั่นใจบูมตลาดแน่ เริ่มใช้ต้นปี 65 ตั้งงบ 4 หมื่นล้านใน 4 ปีอุดหนุนราคาคันละ 1.5 แสน ให้รถราคาไม่เกิน 2 ล้าน บวกลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 2% แถมลดภาษีนำเข้าบีบราคาให้เท่ารถสันดาปพร้อม หนุนลงทุนตั้งจุดชาร์จ “คณิศ” มั่นใจหนุนค่ายรถเร่งผลิตส.อ.ท. หนุนเฉพาะรถนำเข้า แนะเพิ่มส่งเสริมผู้ผลิตในไทย
(+) RCL รุกตะวันตกปี 65 รายได้เติบโต 5-10% ปี (กรุงเทพธุรกิจ) หน้าเพิ่มจำนวน “เรือ” ขานรับตลาดขนส่งโลกพุ่ง RCL รุกขยายตลาด “ตะวันตก-อินเดีย-จีน” พร้อมเพิ่มจำนวนเรือรับตลาดขนส่งทั่วโลกโต ผลักดันรายได้ปี 65 โต 5-10% จากปีนี้จัดการปัญหาความเปราะบางในห่วงโซ่อุปทานโลกได้ดี คาดไตรมาส 4 นี้ยังทำผลงานกำไรนิวไฮ
(+) EPG* งบ Q3 สวยรายได้ปีนี้โต 15% (ข่าวหุ้น) EPG* ลั่นผลงานไตรมาส 3 ปี 64/65 (ต.ค. -ธ.ค. 64) โตต่อเนื่อง มั่นใจงวดปี 64/65 (เม.ย. 64 มี.ค. 65) ทำนิวไฮยอดขายพุ่ง 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12-15% หลังตลาดโลกฟื้นตัวสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น สร้างความมั่นใจในการลงทุนต่างๆมากขึ้น
(+) FSMART ผนึก PEA บริการจ่ายค่าไฟผ่านช่องตู้บุญเติม (ทันหุ้น) FSMART ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดให้บริการชำระค่าไฟฟ้าออนไลน์ผ่านตู้บุญเติม 130,000 ตู้ทั่วประเทศ และเคาน์เตอร์แคชเชียร์ “CenPay powered by บุญเติม” กว่า 1,700 จุด เพิ่มความสะดวกสำหรับชำระบิลค่าไฟฟ้าที่จุดบริการภายใต้การบริหารระบบของบุญเติม
(+) PREB ร่วมคว้างานสร้าง “วันแบงค็อกมูลค่า 1.2 แสนล้าน (ทันหุ้น) PREB เผยเป็น 1 ใน 6 คว้างานใหญ่โครงการ “วันแบงค็อก” มูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท งานก่อสร้างอาคารสนง. พื้นที่รีเทลและไลฟ์สไตล์บนพื้นที่ 260,000 ตารางเมตร ตอกย้ำผู้รับเหมาแถวหน้าของเมืองไทย
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- OCEAN (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 1.75 บาท
- GPSC* (เป้าพื้นฐาน 94.5 บาท) แนวรับ 82.5 บาท / แนวต้าน 84 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 81 บาท)
- SCC* (เป้าพื้นฐาน 494.4 บาท) แนวรับ 378 บาท / แนวต้าน 382-388 บาท (Stop loss 374 บาท)
- BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 19.8 บาท / แนวต้าน 20.3-21 บาท (Stop loss 19.5 บาท)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) แนวรับ 13.3 บาท / แนวต้าน 14.0-14.3 บาท (Stop loss 13.0 บาท)
- BEC* (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) แนวรับ 13.0 บาท / แนวต้าน 13.5-13.8 บาท (Stop loss 12.7 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 14.4 บาท / แนวต้าน 14.8-15.2 บาท (Stop loss 14.2 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- AEONTS แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 230 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q22 (ก.ย. -พ.ย. ) = 953 ล้านบาท (+41% QoQ, -6% YoY) ด้วย Valuation ที่ถูก PE 12.5 เท่า คิดเป็น 0.8 เท่า PEG และ Discount จากกลุ่มราว 45% ยังคงแนะนำ “ซื้อ”