LPH เผยความคืบหน้าในการนำ AMARC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai  คาดเห็นความคืบหน้าภายในปี 65 หลังจากได้ยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว ส่วนแผนงานปีหน้า ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% รับยอดผู้ป่วยต่างชาติฟื้น ผู้ป่วยทั่วไปกลับเข้ารับบริการในภาวะปกติได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี เผยเตรียมงบลงทุน 1,000 ล้านบาท สร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านตาและศัลยกรรม เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้สูงขึ้น รวมทั้งอาคารจอดรถอัจฉริยะ จอดรถได้ 300 คัน พร้อมทั้งลงทุนขยายโรงพยาบาลตรวจสุขภาพอีก 3 แห่ง ชูโมเดลลงทุน รพ.เอเชีย เป็นต้นแบบ ใช้เงินลงทุนแห่งละ 15-20 ล้านบาท เล็งพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นครราชสีมา

 

ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว  จำกัด (มหาชน) หรือ LPH  เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15-20% เนื่องจากคาดว่า ปริมาณผู้ป่วยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง (อาหรับ) และประเทศกัมพูชา จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากบริษัทมีการทำข้อตกลงกับกลุ่มลูกค้าในเป้าหมายไว้แล้ว รวมถึงการดึงแพทย์เฉพาะทางจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่เข้ามาร่วมให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับคาดว่า สถานการณ์แนวโน้มลูกค้ากลุ่มผู้ป่วยทั่วไปจะกลับเข้ารับบริการในภาวะปกติได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565

“คาดว่าหลังจบโควิด ผู้ป่วยทั่วไปเริ่มเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้นและกลับมาใช้บริการ ประกอบกับปัจจุบันบ LPH มีแพทย์เฉพาะทางเก่งๆ ทำให้คนไข้เชื่อมั่นมากขึ้น และยกระดับไปยังกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทประกันได้หันมาใช้บริการโรงพยาบาลระดับกลางมากขึ้น เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า” ดร.อังกูร กล่าว

ขณะที่กลุ่มคนไข้ประกันสังคม ปัจจุบันอยู่ที่ 170,000 คน ในปี 2565 LPH  จะได้โควต้าเพิ่มอีก 30,000 คน คาดว่ายอดคนไข้ประกันสังคมปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 190,000 คน โดยรายได้จากประกันสังคมและโควต้าคงเพิ่มไม่มากหากเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 5% จากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างอาคารใหม่ 3 อาคาร โดยแบ่งเป็นอาคารจอดรถอัจฉริยะ 300 คัน มูลค่าราว 60 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2565 เตรียมลงฐานราก คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 6 เดือน และก่อสร้างอีก 2 อาคาร พื้นที่อาคารรวมประมาณ 10,000 ตารางเมตร จำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 50 เตียง เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านตา และโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมและศูนย์โรคหัวใจ มูลค่าราว 400-500 ล้านบาทแต่ละอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2566 และเปิดให้บริการปี 2567  การลงทุนโรงพยาบาลเฉพาะทาง ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้สูงขึ้น

นอกจากนี้ LPH ยังมีแผนลงทุนขยายโรงพยาบาลตรวจสุขภาพอีก 3 แห่ง ใช้เงินลงทุนแห่งละ 15-20 ล้านบาท โดยเล็งพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจนครราชสีมา รวมทั้งกำลังศึกษาพื้นที่ในภาคเหนือ เช่น จังหวัดลำพูน ลำปาง  แพร่ เชียงราย เป็นต้น ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะใช้โมเดลเดียวกับการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของโรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดอยุธยา คือโรงพยาบาลเอเชียที่ LPH ถือหุ้นประมาณ 50% ส่วนที่เหลือก็ให้แพทย์ พนักงาน สถานประกอบการ  โรงงาน คนท้องถิ่น ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการถือหุ้น  ทั้งนี้ รายได้หลักของโรงพยาบาลคือ ห้องพยาบาล บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ซึ่งตามกฎหมายโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องตรวจสุขภาพพนักงานทุกปี  และต้องมีการตรวจด้านอาชีวอนามัย เป็นต้น

“การลงทุนดังกล่าวเพื่อขยายธุรกิจด้านการให้บริการตรวจวิเคราะห์และวิจัยพัฒนาด้านการแพทย์ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กับบริษัท และสถานพยาบาลต่างๆ รวมถึงการตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจอาชีวอนามัยให้กับกิจการและผู้ใช้บริการทั่วไป อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องและสนับสนุนธุรกิจโรงพยาบาลของบริษัท” ดร.อังกูร กล่าว

ส่วนแนวโน้มรายได้รวมทั้งปี 2564 คาดว่าจะเติบโตราว 25-30% ซึ่งสูงกว่าเป้าเดิมที่คาดไว้ราว 15-20% จากปีก่อน รวมถึงกำไรสุทธิคาดว่าจะทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลมากว่า 28 ปี

ด้านความคืบหน้าในการนำบริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าภายในปี 2565 โดยบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว

****************

- Advertisement -