NV ประกาศแผนธุรกิจปี 65 รุกตลาดถั่งเช่า ออกสินค้าใหม่ ลุย OEM พร้อมเดินหน้าตั้งโรงงานสกัด ทำตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศและขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เติบโตยิ่งขึ้น ทั้งเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในปีหน้า ขยายฐานลูกค้าให้ได้อีก 1 ล้านรายในทุกช่องทาง โดยเฉพาะจากช่องทางการจำหน่ายผ่าน Telesales มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์เพิ่มเป็น 500 คน มั่นใจดันรายได้โตกว่า 15-20% แตะระดับ 1,200-1,300 ล้านบาท ขณะที่หุ้นเข้าซื้อขายวันแรก ราคาเปิดที่ระดับ 6.80 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 6.90 บาท ระบุเป็นผลจากภาวะตลาดยังคงมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการลงทุน ประกอบกับใกล้ช่วงหยุดยาว ทำให้มีปริมาณการซื้อขายไม่คึกคักเ สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท จากความสามารถในการทำกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัทในเครือหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของหุ้น NV ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค/ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ในวันแรกของ NV ราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 6.80 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาจองซื้อที่ 6.90 บาทนั้น เนื่องจากภาวะตลาดยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการลงทุน ประกอบกับใกล้ช่วงหยุดยาว จึงทำให้มีปริมาณการซื้อขาย (วอลลุ่ม) ไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ ยังมีความเชื่อมั่นว่า  จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และความสามารถในการทำกำไรและอัตราการเติบโตของบริษัทในปีหน้าที่คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นนั้น ราคาหุ้นที่กำหนดนั้นมีความเหมาะสม และมีความน่าสนใจต่อการลงทุน

“เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นและนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีวอลลุ่มเข้ามาน้อย จึงทำให้ราคาเปิดตลาดต่ำกว่าราคาจองซื้อ แต่จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแร่งของบริษัท จึงมั่นใจว่า ราคาหุ้นที่กำหนดนั้นมีความเหมาะสมและน่าลงทุน รวมถึงหุ้น NV จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว” นายเอกจักร กล่าว

ด้านนายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารบริษัท มีความยินดีและขอขอบคุณนักลงทุนที่สนับสนุนและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของบริษัทให้มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ สร้างความมั่นใจกับลูกค้าและผู้บริโภคได้อีกช่องทางหนึ่ง

ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่า แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในสถานการณ์ในปัจจุบันปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่า ในปีหน้าจะสามารถสร้างรายได้เติบโตที่ประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 15-20%  เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะกลับมาทำการตลาดผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าเพิ่มมากขึ้น หลังผู้ประกอบการรายอื่นๆ เริ่มกลับมารุกตลาดและลงโฆษณาเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทมีแผนที่จะทำตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อเพิ่มเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการดูแลใส่ใจตัวเอง ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตแบบวิถีสุขภาพดี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศและขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เติบโตยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในปีหน้า เพื่อดันยอดขายให้เติบโตอต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มลูกค้าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ได้อีก 1 ล้านรายภายในปีหน้าในทุกช่องทาง โดยเฉพาะจากช่องทางการจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales) ซึ่งปี 2565 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์เพิ่มเป็น 500 คน จากปัจจุบันมีจำนวน 150 คน

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายรายได้เพิ่มในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า หรือ OEM ให้กับผู้ประกอบการ โดยเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจาก OEM ประมาณ 5% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท รวมทั้งเปิดตัวโรงสกัดสมุนไพรภายในปี 2565

“หุ้น NV ถือว่าเป็นหุ้นเมกะเทรนด์ที่มีความมั่นคงและโอกาสทางธุรกิจสูง เนื่องจากผู้บริโภคหันมาสนใจสุขภาพ ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีเพิ่มมากขึ้น หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหวังว่า หุ้น NV จะได้รับการสนับสนุนและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายนวพล กล่าว

***************

- Advertisement -