บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

TRIPLE I LOGISTICS ปัจจัยหนุนกำไรในปีหน้ารุมล้อม

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) 18.5%

Close Dec 23, 2021 Price (THB) 15.10

12M Target (THB) 17.90

Previous Target (THB) 17.70

What’s new?

  • คาดกำไร 4Q64 เบื้องต้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วง High Season และค่าระวางเครื่องบินยังปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3Q64
  • ในช่วง พ.ย. 2564 บริษัทประกาศเข้าลงทุนในบริษัท Asia GSA (M) คาดหนุนส่วนแบ่งกำไรปี 2565 จํานวน 40 ลบ.
  • การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Shipsmile หนุนส่วนแบ่งกำไรปี 2565 เพิ่มขึ้น 12 ลบ.

Our View

  • ปรับเพิ่มประมาณการปี 2564/65 ขึ้น 15% และ 13% เป็น 364 ลบ. และ 438 ลบ. ตามลำดับ จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 ที่โดดเด่น และการเข้าลงทุนในหลายธุรกิจใหม่ หนุนให้ส่วนแบ่งกำไรร่วมค้าเพิ่มขึ้นในปี 2565
  • เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ 17.90 บาท ราคาปัจจุบันเทียบเท่า PER2565 ที่เพียง 23.7x ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ WICE, LEO และ JWD ที่ปัจจุบันซื้อ-ขายบนค่าเฉลี่ย PER2565 ที่ราว 26.0x

ผลประกอบการ 4Q64 คาดทำจุดสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสท่ี 4 ติดต่อกัน

เบื้องต้นเราคาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ระดับ 100-110 ลบ. เติบโตกว่า 100% YoY และเป็นจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจาก 3Q64 หลักๆ มาจาก 1) การเข้าสู่ช่วง High season ของกลุ่มขนส่ง และค่าระวางทางอากาศในเดือน ต.ค.-พ.ย. 2564 ที่ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3Q64 จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวและการเข้าสู่ช่วงเทศกาลในช่วงปลายปี และ 2) รายได้จากธุรกิจขนส่งสินค้าอันตราย และเคมีภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับสูง เพราะนอกจากค่าระวางทางอากาศที่สูงแล้ว ค่าระวางเรือสะท้อนจากดัชนี Shanghai Containerized Freight Index ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2564 ปรับตัวขึ้นทำ All time high อยู่ที่ 4,811 จุด ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะสั้นคือความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหากการแพร่ระบาดรุนแรงทั้งในและต่างประเทศ คาดส่งผลให้ Capacity ของการขนส่งทางอากาศลดลงตามจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ (Passenger flight) อย่างไรก็ดี เราคาด Capacity ท่ีลดลงจะถูก Offset ด้วยค่าระวางทางอากาศท่ีจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากช่วง 9M64 และผลกระทบโดยรวม คาดเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วง 4Q64 – 1H65

ขยายการลงทุนในทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ หนุนส่วนแบ่งกำไรในปี 2565

ล่าสุด III อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั้นแนล จำกัด (ANI) จำนวน 183 ลบ.(บริษัทลูกของ III ดำเนินธุรกิจ GSA) โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7.3 ล้านหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท) ในมูลค่าหุ้นละ 100 บาท และได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บริษัท ทริพเพิลไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3.0 ล้านหุ้น และให้นายโธมัส เทย์ เงียน ชอง จำนวน 4.3 ล้านหุ้น และอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ANI จำนวน 301 ลบ. โดยมีวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อกิจการกลุ่มบริษัท เอเชีย จีเอสเอ (เอ็ม) เซินดิเรียน เบอร์ฮัด (ASIA GSA (M) Sdn.Bhd.) (“Asia GSA (M)”) ในสัดส่วน 20% แม้ธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้ส่วนได้เสียใน ANI ของบริษัทฯ ลดลงจากเดิม 55.2% ลดลงเป็น 50.1% แต่เราประเมินว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในช่วง 1Q65 และจะเป็นแรงหนุนส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าที่ 40 ลบ.ต่อปี ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท Shipsmile ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด (ใช้เงินลงทุนราว 29 ลบ.) คาดหนุนกำไรจากธุรกิจร่วมค้าเพิ่มขึ้น 12 ลบ.ในปี 2565 แต่จะเพิ่มมากขึ้นในปี 2566 และ 2567 จากเป้าการขยายสาขาเป็น 10,000 สาขาภายในปี 2567 (ปัจจุบันมีสาขาราว 5,000 สาขา)

ด้านความคืบหน้าของธุรกิจขนส่งทางราง ล่าสุดบริษัทได้จัดตั้งบริษัท ทริพเพิลไอ เรลจิสติกส์ จำกัด (ถือหุ้น 55% ด้วยเงินลงทุน 2.8 ลบ.) ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท จงตั้งเจริญ ทรานสปอร์ต กรุ๊ป จำกัด  และบริษัท เพาเวอร์ อินเตอร์เฟรท จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการขนส่งทางรางและทางบก โดยรถหัวลากมีลูกค้าหลัก คือ SCGP ขนส่งเยื่อกระดาษที่นำเข้าจากต่างประเทศ จากท่าเรือแหลมฉบังไปยังราชบุรีรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากโรงงานเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการในธ.ค.2564 อย่างไรก็ดี เรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการปี 2565 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของเส้นทางการขนส่ง และโครงสร้างรายได้ (คาดจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1Q65)

ปรับเพิ่มประมาณการปี 2564/65 ขึ้น 15% และ 13% ตามลำดับ

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564/65 ขึ้น 15% และ 13% เป็น 364 ลบ. และ 438 ลบ. ตามลำดับ การปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 มาจากกำไรปกติช่วง 9M64 ท่ีคิดเป็นกว่า 82% จากประมาณการกำไรเดิมที่ 316 ลบ. ในขณะที่เราคาดเบื้องต้นกำไรปกติ 4Q64 จะอยู่ที่ระดับ 100-110 ลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มขนส่ง, ค่าระวางทางอากาศที่ยังอยู่ในระดับสูง และการเปิดประเทศในช่วงต้นพ.ย. 2564 คาดส่งผลให้ปริมาณการขนส่งผ่าน Passenge rFlight ปรับตัวดีขึ้น สำหรับการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 มาจากสัดส่วนการเข้าลงทุนในบริษัทร่วมค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ GSA ผ่าน “Asia GSA (M)” ซึ่งคาดหนุนกำไรจากธุรกิจร่วมค้า 40 ลบ. และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นบริษัท Shipsmile คาดหนุนส่วนแบ่งกำไรร่วมค้าอีก 12 ลบ.

- Advertisement -