บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Thai Stanley El. (STANLY) 3Q64/65 จะฟื้นตัว ยัง Laggard กลุ่ม

Company Update

ประเด็นการลงทุน

คาดกำไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น แรงหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัว STANLY ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่ไฟหน้า-ท้ายต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Global Model บวกอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดจะหนุนให้แนวโน้มปี 2564/65-2565/66 จะเติบโตได้ดี ราคาหุ้น STANLY นับจากต้นปีปรับขึ้นเพียง 2% YTD เทียบกับดัชนีกลุ่ม เพิ่มขึ้น 21% จึงยัง Laggard ในกลุ่ม หุ้นซื้อขาย P/E ต่ำ ปันผลดีต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 244 บาท เราแนะนํา ซื้อ เป้าหมาย 212 บาท

คาดกำไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น

ตัวเลขอุตสาหกรรมรถยนต์ไตรมาสสี่คาดจะฟื้นตัวได้ดี 467,000 คัน (+27% QoQ, 0% YoY) หลังสถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น มีการคลายล็อกดาวน์ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และปัญหาไมโครชิปขาดแคลนเริ่มดีขึ้น ทำให้ยอดขายของ STANLY 3Q64/65 (ต.ค. -ธ.ค. 64) คาดจะฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน 3,650 ล้านบาท (+21% QoQ, 0% YoY) และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีขึ้น 17.8% จาก 16.0% ในไตรมาสก่อน และ 17.5% ในปีก่อน ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดจะฟื้นตัว 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาสก่อน แต่ยังลดลงจากปีก่อน 22% YoY จากบริษัทลูกในเวียดนามยังไม่ฟื้นกลับมาเต็มที่ รวมแล้วคาดกําไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น 415 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสก่อน 55% QoQ แต่จะยังปรับลดลงจากปีก่อน 3% YoY

แนวโน้มปี 2564/65-2565/66 คาดจะเติบโต

แนวโน้มปี 2565 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินยอดผลิตรถยนต์จะเติบโตต่อ 1.7-1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1%-6.5% หลังปี 2564 ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์เป็น 1.68-1.69 ล้านคัน เติบโต 18% จากเป้าหมายเดิม 1.60 ล้านคัน โดย STANLY ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่ไฟหน้า-ท้ายต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Global Model ดังนั้น แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 (งวด ม.ค. -มี.ค. 2565) คาดจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อ เราคาดยอดขาย STANLY ปี 2564/65 (เม.ย. 64-มี.ค. 2565) จะเท่ากับ 13,700 ล้านบาท โต 18% และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,548 ล้านบาท โต 62% และปี 2565/66 (งวด เม.ย. 2565-มี.ค. 2566) คาดยอดขายจะเติบโตต่อ 10% สู่ระดับ 15,070 ล้านบาท และมีกำไร 1,784 ล้านบาท เติบโต 15%

หุ้น Valuation ถูก และยัง Laggard ในกลุ่ม

ราคาหุ้น STANLY นับจากต้นปีปรับขึ้นเพียง 2% YTD เทียบกับดัชนีกลุ่มเพิ่มขึ้น 21% จึงยัง Laggard ในกลุ่ม ในขณะที่มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงในกลุ่ม ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำเพียง 8.5 เท่า มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.7% ต่ำกว่ามูลค่าบัญชี 244 บาท และมีเงินสดในมือสูงถึง 5.3 พันล้านบาท เราประเมินราคาเป้าหมายบนฐานค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ประมาณ 10.5 เท่า จะได้เท่ากับ 212 บาท แนะนำ ซื้อ

- Advertisement -