Daily Focus – Selective Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าคาด +11.81 จุด และดีกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคลายกังวลต่อโอมิครอนต่อเนื่อง หนุน Fund Flow ขณะที่นักลงทุนไหลเข้าสถาบันในประเทศ พลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 575 ลบ. ต่างชาติซื้อเร่งขึ้นเป็น 6.1 พันลบ. (และ Long Index Futures อีก 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up และมีลุ้นขึ้นทดสอบ High เดิมบริเวณ 1,658 จุด อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายวันนี้คาดว่าจะเบาบาง เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ ประกอบกับ SET Index ที่ปรับขึ้นดี +5.4% MTD จากการคลายกังวลโอมิครอน ทำให้ระยะสั้นคาดว่าจะเริ่มชะลอความร้อนแรง ส่วนมุมมองในขณะที่แนวโน้มตลาดในดือน ม.ค. เรายังให้น้ำหนักค่อนไปในทางบวก แม้ตัวเลขผู้คิดเชื้ออาจปรับตัวขึ้น แต่คาดตลาดจะไม่ตอบรับเชิงลบอย่างหนักเหมือนการระบาดระลอกที่ผ่านๆ มา โดยรวมเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า กลยุทธ์ยังแนะนำ “ถือลงทุน” ส่วนที่สะสมไปแล้วในช่วงปรับฐาน ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัว

กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกระทบจาก COVID-19 จำกัด

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BCH, JWD, MEGA, NSL, SYNEX

หุ้นเด่นวันนี้: TKS

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท ระยะสั้นกำไร 4Q21 จะออกมาโดดเด่นตาม SYNEX ที่เป็น High Season ขณะที่ 1Q22 จะได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้า IT มากที่สุด
  • ราคาหุ้น SYNEX ที่ปรับขึ้นแรงยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงใน TKS ที่ถือหุ้นอยู่ถึง 38.5% และปัจจุบันยังมี NAV Discount สูงเกือบ 40% ซึ่งมากเกินไปและเทรด 2022PER เพียง 13.7 เท่า
  • แนวรับ 14.70-14.50 บาท แนวต้าน 15.70 // 16-16.20 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$ 222 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$ 517 ล้าน แต่ออกจากเกาหลีใต้ US$ 493 ล้าน ส่วนอาเซียนยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า นำโดยไทยที่หนาแน่นสุด US$ 183 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดเบาบาง เนื่องจากเข้าใกล้วันหยุดเทศกาลปีใหม่

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) สรุปผลตอบแทนปี 2021 YTD สินทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นแรงสุดคือ Commodity โดยเฉพาะน้ำมันดิบ +57% ตามการ Reopening ทั่วโลก โดยเฉพาะภาคการเดินทางจากการเปิดประเทศ ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นแรงที่สุดคือสหรัฐฯ S&P500 +27% จากเศรษฐกิจที่ฟื้นเร็วหลังฉีดวัคซีน รองลงมาคือยุโรป MSCI EU +22% ขณะที่ Emerging Market และ Asia ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นลบราว 5-6% หลักๆ ถูกกดดันโดยจีนและฮ่องกง ส่วน SET Index ให้ผลตอบแทน +14% อยู่ในลำดับต้นๆ ของภูมิภาคเป็นรองเวียดนาม ไต้หวัน และอินเดีย

(+) กลุ่มรับเหมาฯ เซ็นสัญญาโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 7.3 หมื่นลบ. และรถไฟทางคู่สายอีสานบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 5.5 หมื่นลบ. แล้วโดยเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของมี 3 สัญญา ITD-NRW ชนะสัญญาที่ 1 ส่วน CKST ชนะสัญญา 2-3 ส่วน เส้นบ้านไผ่-นครพนมมี 2 สัญญา โดยสัญญาแรกเป็นของ บริษัท เอ. เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด JV กับ บริษัท รับเหมาท้องถิ่นส่วนสัญญา 2 เป็นของ UNIQ JV กับบริษัทรับเหมาท้องถิ่น การเซ็นสัญญาถือว่าเร็วกว่าตลาดคาดเล็กน้อย คาดเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างใน 2H22 และความคืบหน้าก่อสร้างจะชัดเจนขึ้นในปี 2023 นอกจากนี้ยังเป็นบวกต่อ RT ที่มีโอกาสได้งาน Sub-contract อุโมงค์ที่มีอยู่ในสายเด่นชัย โดยคาดหวัง 50% จากงานอุโมงค์ราว 1.5 หมื่นล้านบาท และเป็นพันธมิตรที่มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับทั้ง CK และ ITD เราเลือก CK เป็น Top Pick

(0) วันนี้มี Rebalance SET50 / SET100 งวด 1H22 โดยหุ้นที่เข้า SET50 ได้แก่ AWC TIDLOR BANPU หุ้นออก ได้แก่ BJC DELTA STA ส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR STA ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ DELTA BJC PSL JAS PTL PRM ICHI AAV NRF TKN

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 90.42 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 36,488.63 จุด เนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน หลังผลวิจัยจากหลายสถาบันระบุว่าแม้ไวรัสโอมิครอนแพร่ระบาดได้ง่าย แต่ความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มเดินทาง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม โดยหนุนจากการปรับขึ้นของตลาดดาวโจนส์ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นโตเกียวปรับลงจากความกังวลเกี่ยวกับยอดติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ในญี่ปุ่นอาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ และกระทบต่อเศรษฐกิจ

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 58 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 76.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 5.1 ดอลลาร์หรือ 0.28% ปิดที่ 1,805.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้น และแรงขายสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 975.66 / +-

- Advertisement -