ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อกรอบจํากัด ส่งท้ายปี 2564

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ และวันทำการสุดท้ายของปี 2564 บวกกรอบจำกัด … หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นบวกแรงกว่าที่คาด หนุนโดยแรงซื้อต่างชาติที่แข็งแกร่งหนุนการฟื้นตัวของหุ้นตัวหลักๆ เกือบทั้งหมด … ขณะที่ในวันนี้ ภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมทั้งตลาดน้ำมันยังอยู่ใเกณฑ์ดี นักลงทุนไม่ได้กังวลต่อตัวเลขการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron หลังจากมีข้อมูลมากขึ้นเป็นลำดับว่าสายพันธุ์ดังกล่าวไม่รุนแรง และไม่กดดันระบบสาธารณสุขมากนัก ทั้งนี้อังกฤษและฝรั่งเศสรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ เมื่อวานนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.8 แสนคน และ 2.0 แสนคน ตามลำดับ ขณะที่สหรัฐฯรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทำ new high เช่นกันที่ 4.4 แสนคน แต่ตลาดหุ้นประเทศหลักๆ ยังคงทรงตัวหรือบวกเล็กน้อยเมื่อวานนี้ … ด้านปัจจัยภายในประเทศบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย. ซึ่งภาพรวมน่าจะเติบโตได้ดี MoM ตามโมเมนตัมการเปิดประเทศ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีในเดือนดังกล่าว … สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า (4-7 ม.ค. 2565) ได้แก่ i) สถานการณ์ของสายพันธุ์ Omicron ในประเทศไทยหลังเทศกาลปีใหม่ และ ii) พฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันฯ ในช่วงที่น่าจะมีแรงไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนดถือครอง 7 ปี ทั้งนี้ข้อมูลจาก AIMC ว่าเม็ดเงินที่เข้ากองทุน LTF ในปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร INTUCH*, BBL*, W

  • INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 77.5 บาท / แนวต้าน 80-81 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 84 บาท (Trailing stop 76 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มกำไร 4Q64 จะโต YoY, QoQ หนุนโดยกำไรจาก ADVANC* ขณะที่คาดปี 2565 INTUCH* กำไรจะกลับมาเติบโต +8.3% YoY ได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่กำไรลดลงมา 3 ปีติดต่อกัน 3) คาดจ่ายปันผลสำหรับ 2H64 ราว 1.25 บาท/หุ้น (Dividend yield 1.6%) และคาดในผลสำหรับปี 2565 เท่ากับ 2.75 บาท/หุ้น (Dividend yield 3.5%) 4) ประเมินราคาหุ้น INTUCH* laggard ADVANC* ขณะที่การประเมิน Valuation INTUCH* >90% มาจากมูลค่า ADVANC*
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 120 บาท / แนวต้าน 122.5-124 บาท (Stop loss 118 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปี 2565 โต +20% YoY, ROE ขยับขึ้นเป็น +6.2% (จาก 5.4% ในปี 2564), คาดปันผลที่เหลือของปี 2564 เท่ากับ 2.86 บาท/ต่อหุ้น (Yield 2.4%) และคาดปันผลปี 2565 เท่ากับ 4.65 บาท/หุ้น (Yield 3.8%), PBV ต่ำเพียง 0.47 เท่า 3) ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขณะที่เป็นจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่คาดแนวโน้เศรษฐกิจฟื้นตัวในปีหน้า
  • W (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 4.3 บาท / แนวต้าน 4.6-4.7 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.8 บาท (Stop loss 4.3 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจร้านอาหารใกล้ถึงจุดคุ้มทุนในปี 2565 จากการเร่งเปิดร้านโดมิโน่พิซซ่า โดยปัจจุบันมีร้านโดมิโน่พิซซ่าเปิดให้บริการรวม 31 สาขา เพิ่มจาก 27 แห่งในปี 2563 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.dominospizza.co.th) โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประเมินไว้ว่า EBITDA ธุรกิจร้านโดมิโน่พิซซ่าของ W จะพลิกเป็นบวกเมื่อมีจำนวนสาขา >35 แห่ง (ข้อมูลการประเมินแจ้งเว็บไซต์ตลาดฯ วันที่ 15 ก.ค. 2563) 3) คาดเมื่อจำนวนสาขาครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นจะเป็นบวกต่อการจัดส่ง Delivery ในช่วงที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด -19

หุ้นมีข่าว

(+) รฟท. เซ็นรถไฟทางคู่ 1.2 แสนล. 5 บิ๊กผู้รับเหมาแบ่งเค้กฉลุย (กรุงเทพธุรกิจ) ร.ฟ.ท. ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง สายเด่นชัย-เชียงของ สายบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 1.2 แสนล้าน 5 สัญญา กระจายรับโปรเจค “ช. การช่าง-เนาวรัตน์ไอทีดี-ยูนิค-ซิโนไทย” ยืนยันประมูลโปร่งใส

(+) CHO ส่ง AROGO ระดมทุน 3.6 พันล. เข้าเทรดใน NASDAQ- หวังต่อยอดธุรกิจ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ช. ทวีระดมทุนรูปแบบ SPAC ในสหรัฐอเมริกาผ่าน บริษัท Arogo Capital Acquisition Corp. มูลค่ากว่า 3.6 พันล้านบาท และเข้าเทรดตลาดหุ้น NASDAQ รองรับแผนลุยซื้อกิจการ Tech-EV ตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 65 มั่นใจช่วยต่อยอดธุรกิจและส่งผลเชิงบวกต่องบการเงินของ บริษัท ภายใต้โรดแมป CHO Tech Riders 2030 หนุนผลงานทะยาน

(+) BBL* รูกโตอินโดฯ จับมือ ‘เพอร์มาตา “ขยายธุรกิจดันรายได้ต่างประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ) ยกระดับโมบายแบงกิ้งเพิ่มขาย “ประกัน-กองทุน” ผ่านแอพฯ ปีหน้า “แบงก์กรุงเทพ” จับมือเพอร์มาตาขยายธุรกิจในอินโดนีเซียในสัดส่วนรายได้ต่างประเทศโตพร้อมยกระดับโมบายแบงกิ้งปีหน้า เพิ่มขาย “ประกันกองทุน-เวลธ์” ผ่านแอพฯ

(0) SMK เพิ่มทุน 1.4 พันล้าน รับมือโควิด “เจอจ่ายจบ” (ข่าวหุ้น) “สินมั่นคงประกันภัย” (SMK) ออกหุ้นเพิ่มทุน 66 ล้านหุ้น ขายแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ราคาไม่ต่ำกว่า 21.52 บาท รวมเป็นเงิน 1,420 ล้านบาท ยันเงินเพิ่มทุนที่ได้รับจะเพียงพอต่อการจ่ายสินไหมประกันโควิดประเภท “เจอจ่ายจบ”

(0) CPN* ส่งเซ็นทรัลเวิลด์ทำคำเสนอซื้อหุ้น SF กำหนดราคา 11.30 บ. (ทันหุ้น) CPN* ส่งเซ็นทรัลเวิลด์ทำคำเสนอซื้อที่เหลือทั้งหมดของ SF จำนวน 66,372,002 หุ้น เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SF ออกจากตลาดในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 11.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 750 ล้านบาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • OCEAN (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 1.8 บาท
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 94.5 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 84 บาท
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) แนวรับ 14.2 บาท / แนวต้าน 14.3-14.7 บาท (Trailing stop 13.5 บาท)
  • OTO (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 12.0 บาท / แนวต้าน 12.7-13.0 บาท (Stop loss 12.0 บาท)
  • EPG* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 10.9 บาท / แนวต้าน 11.3-11.6 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
  • SCC* (เป้าพื้นฐาน 494.4 บาท) แนวรับ 385 บาท / แนวต้าน 388-390 บาท (Trailing stop 380 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 20.1 บาท / แนวต้าน 20.6-21 บาท (Stop loss 199 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) แนวรับ 14.3 บาท / แนวต้าน 14.9 บาท (Stop loss 13.8 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 14.4 บาท / แนวต้าน 14.7-15.2 บาท (Stop loss 14.2 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

BAFS แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 33 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุน -56 ล้านบาทใน 4Q64 (ขาดทุนลดลง YoY, QoQ) จากกการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ซื้อมาในเดือน ก.ย. 64 และคาดปริมาณขายน้ำมันที่ดีขึ้น QoQ

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -