บล.ทรีนีตี้

ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป – TISCO

คาดกำไร 4Q64 ดีขึ้น QoQ หลังรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยฟื้น

  • คาดกำไร 4Q64 ที่ 1,634 ล้านบาท ดีขึ้น 5% QoQ แต่ทรงตัว YoY
  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจยังอ่อนตัวลงตามสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังหดตัว
  • แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอาจฟื้นตัวได้ดี โดยรายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ส่วนกำไรจากเงินลงทุนดีขึ้นตามแนวโน้มตลาดทุน
  • ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจเพิ่มขึ้น QoQ แต่เป็นผลจากที่ 3Q64 มีกลับสำรอง อย่างไรก็ตาม ยังลดลง YoY ตามคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น
  • คาดปี 65 กำไรดีขึ้น 10% YoY หลังคาดการระบาดและเศรษฐกิจกดดันน้อยลง คาดสินเชื่อเริ่มฟื้น ส่วนสำรองหนี้ยังลดลงต่อเนื่อง
  • ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 110 บาท ปันผลเด่น คงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไร 4Q64 โต QoQ หลังรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยพื้น

คาดกำไร 4Q64 ที่ 1,634 ล้านบาทโต 5% QoQ แต่ทรงตัว YoY โดยมีประเด็นสำคัญคือ

1. รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจยังอ่อนตัวลงราว 3% QoQ จากสินเชื่อที่ยังหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ยังไม่ฟื้นตัว

2. คาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้นถึง 41% QoQ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ได้รับผลบวกจากปัจจัยฤดูกาล และกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนที่พลิกกลับจากที่มีขาดทุนใน 3Q64

3. คาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 2% QoQ เนื่องจากอาจมีค่าใช้จ่ายบางรายการที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี

4. คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อยู่ที่ 442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% QoQ เนื่องจากใน 3Q64 มีการกลับสำรองหนี้ อย่างไรก็ตาม ยังลดลง 45% YoY ตามแนวโน้มคุณภาพหนี้ที่มีความเสี่ยงน้อยลงเมื่อเทียบกับในช่วงปีก่อน

ภาพปี 65 ดูสดใสขึ้น

เราคาดกำไรปี 65 ที่ 7.2 พันล้านบาท เติบโต 10% YoY โดยแนวโน้มโรคระบาดที่รุนแรง และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้อาจเห็นสินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังในช่วงปี 64 ธนาคารให้ความสำคัญกับคุณภาพหนี้ ทำให้สินเชื่ออ่อนตัว ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นกัน ทั้งในส่วนของค่าธรรมเนียมที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และรายได้จากตลาดทุนตามการคาดการณ์แนวโน้มตลาดทุนที่ดีขึ้น ด้านคุณภาพหนี้คาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่สำรองส่วนเกินที่มีอยู่ค่อนข้างสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” คาดปันผลยังสูงจูงใจ

เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 110 บาท อิง PBV 1.9 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside บวกกับปันผลปี 2564 ที่เราคาดว่าจะจ่ายที่ 69 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 7% ซึ่งยังสูงจูงใจ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง: แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อ NIM

- Advertisement -