บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

PTT EXPLORATION & PRODUCTION กำไรสุทธิไม่เด่น

Action

TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +12.0%

Close Jan 05, 2022 Price (THB) 120.50

12M Target (THB) 135.00

Previous Target (THB) 135.00

What’s new?

  • คาด 4Q64 มีกำไรสุทธิ 7.8 พันล้านบาท +207% YoY (ฐานต่ำ) เมื่อเทียบกับ 3Q64 คาดกำไรปกติทรงตัว QoQ จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ช่วยชดเชยต้นทุนผลิตท่ีสูงขึ้นตามฤดูกาล, ค่าซ่อมบำรุง, และค่าภาคหลวงได้ ท้ังนี้ กำไรสุทธิจะลดลง -19% QoQ เพราะคาดว่าจะมีรายการด้อยค่าความล่าช้าของโครงการโมซัมบิก LNG
  • หาก 4Q64 เป็นไปตามคาด กำไรปกติท้ังปีจะใกล้เคียงคาด แต่กำไรสุทธิมี Downside 10%

Our View

  • ทิศทางราคาน้ำมันระยะสั้นยังแข็งแกร่งจากตลาดตึงตัว, สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง, อาการสายพันธุ์ Omicron ไม่รุนแรง, การพัฒนายารักษา Covid-19
  • อย่างไรก็ตาม เรายังระมัดระวังต่อตลาดน้ำมันในปี 2565 ที่มีความเสี่ยงเป็นอุปทานส่วนเกิน
  • คงราคาเหมาะสม 135.00 บาท แนะนำ TRADING ระยะสั้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม งบ 4Q64 ท่ีไม่เด่น เชิงกลยุทธ์แนะนำรอจังหวะเข้าลงทุนหลังรายงานงบวันท่ี 27 ม.ค.

คาดงบ 4Q64 ถูกถ่วงด้วยรายการด้อยค่าสินทรัพย์

คาดกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 7.8 พันล้านบาท เติบโตสูง +207% YoY จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และปริมาณขายโครงการ Sabah H-Oman Block 61 ที่เริ่มรับรู้ยอดขายตั้งแต่ 1Q64 เมื่อเทียบกับ 3Q64 ประเมินกำไรปกติจะแข็งแกร่งระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท ทรงตัว QoQ โดยคาดว่า 1) ปริมาณขายจะสูงขึ้นจาก 417KBOED ใน 3Q64 เป็น 419KBOED ตามยอดขายโครงการในอ่าวไทยและมาเลเซีย 2) ราคาขายเฉลี่ยขยับขึ้นเป็น US$ 46.4/BOE (+5% QoQ) สอดคล้องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น (น้ำมันดิบดูไบ 4Q64 เฉลี่ย US$ 78/bbl +9% QoQ และ +75% YoY) ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอุปสงค์ทดแทนก๊าซ-ถ่านหินที่ขาดแคลน ซึ่งจะสามารถชดเชย 3) ต้นทุนผลิตที่สูงขึ้นเป็น US$ 29.9/BOE (+2% QoQ) จากค่าใช้จ่ายที่มักสูงขึ้นช่วงปลายปี, ค่าซ่อมบำรุงโครงการในเมียนมา และค่าภาคหลวงที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า 4Q64 จะมีรายการด้อยค่าสินทรัพย์จากความล่าช้าการก่อสร้างโครงการโมซัมบิก LNG เพราะความไม่สงบในประเทศ สุทธิกับการกลับรายการค่าใช้จ่ายรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมโครงการบงกชที่น้อยกว่าที่บริษัท ฯ ประเมินไว้ก่อนหน้า (ให้ข้อมูลไว้ในการประกาศแผนธุรกิจเดือน ธ.ค.) ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง -19% QoQ หาก 4Q64 เป็นไปตามคาด ประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 4.0 หมื่นล้านบาท จะมี Downside 10% ทั้งนี้ กำไรปกติจะยังใกล้เคียงคาด

ตลาดน้ำมันระยะสั้นแข็งแกร่ง … แต่ภาพทั้งยังมีความเสี่ยงจากอุปทานส่วนเกิน

ภาพระยะสั้นของราคาน้ำมันยังแข็งแกร่ง เพราะตลาดยังตึงตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564, ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงต่อเนื่อง, การคลายกังวลเกี่ยวกับ Covid-19 หลังสายพันธุ์ Omicron มีอาการไม่รุนแรง และมีการพัฒนายารักษาต่อเนื่อง, การปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันของลิเบีย และการปรับเพิ่มมุมมองตลาดน้ำมันของ OPEC  ซึ่งเป็นบวกต่อ PTTEP ที่เป็นหุ้นพลังงานต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เหลือของปี 2565 เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อทิศทางราคาน้ำมัน โดยเฉพาะ 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากประเมินว่าตลาดน้ำมันจะพลิกเป็นอุปทานส่วนเกิน อ้างอิงคาดการณ์ของ EIA การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันปี 2565 จะเหลือ 3.5 ล้านบาร์เรล/วัน (จาก 5.1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2564) ตามการเติบโตของ GDP โลกที่ชะลอลง สวนทางอุปทานที่เร่งตัวขึ้นเป็น 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน (จาก 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2564) สอดคล้องการผ่อนปรนมาตรการลดปริมาณผลิตของ OPEC+ และแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯที่สูงขึ้น

รอจังหวะเข้าลงทุนหลังรายงานงบ

คงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) บนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ 2565 เฉลี่ยที่ US$ 67 /bbl (ลดลงจากค่าเฉลี่ยปี 2564 ที่ US$ 69 /bbl) ทั้งนี้ กรณีราคาน้ำมันแข็งแกร่งกว่าคาดประเมิน Sensitivity ทุก US$ 1 /bbl จะมีผลต่อกำไร 870 ล้านบาท และราคาเหมาะสม 2.30 บาท/หุ้น คงราคาเหมาะสม 135.00 บาท แนะนำ TRADING ตามราคาน้ำมันที่ระยะสั้นยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มงบ 4Q64 ไม่เด่น เพราะถูกถ่วงจากรายการด้อยค่าสินทรัพย์ เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนอาจรอจังหวะเข้าลงทุนหลังรายงานผลประกอบการวันที่ 27 ม.ค. 2565

- Advertisement -