บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 

PTT Exploration and Production (PTTEP.BK / PTTEP TB)* ประมาณการ 4Q64F: มีผลขาดทุนการด้อยค่าสินทรัพย์ในโมแซมบิก

Event

ประมาณการ 4Q64

Impact

คาดว่ากําไรใน 4Q64F จะโตถึง 275% YoY แต่ลดลง 1% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTEP ใน 4Q64 จะอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท (+275% YoY, -1% QoQ) โดยกำไรที่พุ่งสูงขึ้น YoY จะเป็นเพราะราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นถึง 76% เป็น US$ 78/bbl ใน 4Q64 จาก US$ 45/bbl ใน 4Q63 ในขณะเดียวกันกำไรที่ลดลงเล็กน้อย QoQ เป็นเพราะถูกกดดันจากผลขาดทุนพิเศษสองรายการรวม 200 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งมาจาก i) ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 160-180 ล้านดอลลาร์ฯ จากโครงการ Mozambique หลังจากที่มีการประกาศ Force Majeure เพราะสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในเมือง Palma ประเทศโมแซมบิก ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 และ ii) ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 20-30 ล้านดอลลาร์ฯ จากโครงการ Yetagun เพราะการผลิตลดลงจากใกล้สิ้นสุดอายุโครงการ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ฯ จากการกลับรายการค่าใช้จ่าย decommissioning ของโครงการบงกช ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น 16% QoQ ใน 4Q64 เนื่องจากคาดว่าราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น US$ 46.5/BOE เพราะคาดว่าราคาขายผลิตภัณฑ์ประเภทของเหลวจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็น US$ 75/bbl และคาดว่าราคาขายก๊าซจะขยับเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น US$ 5.9/mmbtu นอกจากนี้เรายังคาดว่าปริมาณยอดขายจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 419KBOED แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น US$ 30.0/BOE เนื่องจากตามปกติแล้วค่าใช้จ่าย SG&A มักจะสูงในไตรมาสที่สี่ของทุกปี

OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 400KBD ในเดือนหน้า

เมื่อวันที่ 4 มกราคม OPEC+ มีมติให้คงตามนโยบายเดิมที่จะเพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบอีก 400KBD ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมาจากแรงกดดันจากทางสหรัฐให้เพิ่มอุปทานน้ำมัน และความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron หลังจากพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ OPEC+ กำหนดประชุมนัดหน้าในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในขณะเดียวกันเรายังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565 เอาไว้เท่าเดิมที่ US$ 70/bbl

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 เอาไว้ที่เท่าเดิม 145.00 บาท โดยใช้ WACC ที่ 9.1% และ terminal growth ที่ 1.0% เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากกำไรจากธุรกิจหลัก ที่คาดว่าจะดีขึ้นใน 4Q64 และราคาน้ำมันดิบที่สูงในปัจจุบัน เนื่องจากความกังวลสายพันธุ์ Omicron ลดลง โดยถ้ากำไร 4Q64 เป็นไปตามที่เราคาด ล่าสุดเราจะพบว่ามี downside risk ประมาณ 7% จากประมาณการกำไรปี 2564 เป็น 3.77 หมื่นล้านบาท และยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ไว้ที่เท่าเดิมที่ 4.97 หมื่นล้านบาท (+ 32% YoY)

Risks ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซ

- Advertisement -