บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

AEON Thana Sinsap (AEONTS.BK / AEONTS TB)* ผลประกอบการ 3Q64 / 65: กำไรต่ำกว่าประมาณการเพราะ LLP

Event

ผลประกอบการ 3Q64/65, ปรับลดประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายปี FY2566

Impact

ผลประกอบการ 3Q64/65 ต่ำกว่าประมาณการ 15%

กำไรสุทธิ 3Q64/65 (สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน) อยู่ที่ 815 ล้านบาท (+20% QoQ, -19% YoY) และกำไรสุทธิงวด 9M64/65 อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (+5%) คิดเป็น 62% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา ทั้งนี้ผลประกอบการ 3Q64/65 ต่ำกว่าประมาณการของเรา 15% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการกันสำรองสูงเกินคาด โดยคิดเป็น credit cost ที่ 8% (เราคาดไว้เพียง 7.5%) ใน 3Q64/65 และ 7.6% ในงวด 9M64/65

สินเชื่อฟื้น ในขณะที่ margins และคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นด้วย

สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 3% QoQ และ 1% YoY จากผลการดำเนินงานในประเทศไทย แบ่งเป็น i) สินเชื่อบัตรเครดิต (+5% QoQ และ +4% YoY) ii) สินเชื่อส่วนบุคคล (+2% QoQ, -1% YoY) โดย yield สินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (+20bps QoQ, +70bps YoY) เป็น 20.6% ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง (10bps QoQ, -56bps YoY) เหลือ 2.6% ซึ่งช่วยหนุนให้ margin ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน gross NPL ลดลงเล็กน้อย (-4% QoQ, -14% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564) จากการ write off หนี้เสียในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 255% (จาก 242% ในไตรมาสก่อนหน้า)

ปรับลดประมาณการกำไรลง -11%/-2% สำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F/กุมภาพันธ์-65F

ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะขยายตัวดีขึ้น QoQ ในขณะที่ yield สินเชื่อดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงใน 3Q64/65 แต่ผลการดำเนินงานที่ออกมายังไม่ดีเท่ากับที่เราคาดเอาไว้ โดยผลประกอบการงวด 9M64/65 คิดเป็นเพียง 62% ของประมาณการเต็มปีของเราเท่านั้น ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F / กุมภาพันธ์-65F ลง 11%/2% เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับเพิ่ม credit cost เป็น 710bps / 650bps สำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F / กุมภาพันธ์-65F (จากเดิม 650bps / 650bps) ii) การปรับอัตราการเติบโตของสินเชื่อ CLM -22%/+ 8% สำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F / กุมภาพันธ์-65F (จากเดิม -3%/28%) เพื่อสะท้อนสถานการณ์ในปัจจุบัน iii) การปรับลด yield สินเชื่อในประเทศลงเหลือ 20.8%/21.2% สำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F / กุมภาพันธ์-65F (จากเดิม 21.0%/21.2%) และ iv) การปรับลดสัดส่วน C/I เหลือ 37.6%/37.5% สำหรับงวดปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์-64F / กุมภาพันธ์-65F (จากเดิม 38.0%/37.5%) เนื่องจากบริหารค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดี

ราคาเป้าหมายใหม่เดือนกุมภาพันธ์ 2566F 240 บาท (เดิม 230 บาท), P/E ที่ 12.5x

เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2565F/กุมภาพันธ์ 2566F ลง -11%/-2% ทำให้ราคาเป้าหมาย FY2565 ของเราลดลงเหลือ 215.00 บาท จากเดิม 230.00 บาท อย่างไรก็ตาม เราเปลี่ยนราคาเป้าหมายจาก 230 บาท สำหรับปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2565F เป็น 240 บาท สำหรับปีสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2565F โดยเราประเมินราคาเป้าหมายของ AEONTS โดยอิงจาก P/E ที่ 12.5x คิดเป็น PEG ที่ 0.6x ของกำไรเฉลี่ยสองปีข้างหน้า โดยมี discount จากหุ้นอื่นในกลุ่มถึง 45% ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นไม่แพง เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ

Risks อุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, สินเชื่อ, NPL เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าระดับล่าง, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการกดดัน yield

- Advertisement -