KWM เปิดเกมรุกทางธุรกิจรับศักราชใหม่ ประกาศตั้งเป้าปี 65 โต 10 -15% จ่อนำ 3 บริษัทย่อยต่อจิ๊กซอว์ สู่ New S-curve ปั้นรายได้แบบ Recurring Income พร้อมเดินหน้า     ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ ขับเคลื่อนสินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตร หวังจำหน่ายสินค้าแก่ผู้ใช้สินค้าโดยตรง ทั้งเตรียมลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มใบจอบหมุน ใบโรตารี่ รวมทั้งใบเกลียวรุ่นใหม่ ขายให้สยามคูโบต้าเพิ่มขึ้น 

 

นางสาวติยาภรณ์ วนโกสุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานปี 2565 บริษัทวางเป้าอัตราการเติบโตรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมาจากแผนการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้มีความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ภายใต้การสร้างการเติบโตรอบใหม่ (New S-curve) ผ่านการดำเนินกิจการในบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด ซึ่ง KWM ถือหุ้นในสัดส่วน 99.70% ดำเนินให้บริการสกัดสารจากพืชสมุนไพรไทย กัญชา กัญชง ด้วยเครื่องสกัดสารด้วยระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION และปัจจุบันได้พัฒนาเครื่องสกัดเป็นรุ่นที่ 2 KWM EXTRACTOR 2.0 ภายใต้รูปแบบการสกัด Supercritical CO2 Extraction ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาติดตั้งเครื่องสกัดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา คาดว่าจะติดตั้งเครื่องสกัดให้กับลูกค้าจำนวน 5 เครื่อง ส่วนภายในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าที่จะติดตั้งเครื่องสกัดทั้งหมด 20 เครื่อง และในปี 2567 คาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องสกัดได้ครบ 60 เครื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ภายในปี 2567 บริษัทจะมีรายได้จากการติดตั้งเครื่องสกัดเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% เพื่อดำเนินธุรกิจการสกัด แปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตร และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ ในรูปแบบ OEM นั้น ขณะนี้ได้มีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางร่วมกับทางลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับในอนุญาตจากสำนักงาน อย.เร็วๆ นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อาทิ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ลดกลิ่นปากของสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากมองว่า ตลาดในกลุ่มสัตว์เลี้ยงเป็นตลาดที่ใหญ่และมีมูลค่าสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดจะสามารถจำหน่ายและทำการตลาดได้ภายในช่วงไตรมาส 1/65 พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวสำหรับปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนบริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) โดย KWM ถือหุ้นในสัดส่วน 51 % และกลุ่มพันธมิตร ภายใต้บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจ อาทิ กลุ่มแพทย์แผนไทยกลุ่มเภสัชกร กลุ่มนักวิจัย ร่วมถือหุ้น เพื่อดำเนินธุรกิจสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพร อาทิ ฟ้าทะลายโจร พืชกระท่อม มะขามป้อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นต้น โดยล่าสุด KWHB ได้มีการเปิดตัวสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตจาก อย.อาทิ สเปรย์ฟ้าทะลายโจร น้ำมันหอมระเหย และข้าวลืมเหนื่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า ในปี 2565 จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่วางตลาด ไม่ต่ำกว่า 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เจลลี่ Power Booster โดยมีส่วนผสมจากกระท่อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ และกระเจี๊ยบ และน้ำกระท่อมเข้มข้น สกัดแบบ Nano เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีรายได้จาก KWHB เข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในปี 2565

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ KWM ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากแรงขับเคลื่อนในการใช้สินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นจากดีมานด์การใช้กลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์เกษตรที่มีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรขยายการผลิตเพิ่มขึ้นตาม และจากความต้องการที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่ ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชั่น ที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/65 นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการลงทุนในคลังสินค้าเพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงไฮซีซั่น ที่มีความต้องการสินค้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65

ทั้งนี้ ธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการทางการเกษตรที่ผลิตให้กับกลุ่มบริษัทการเกษตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” บริษัทเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มใบจอบหมุน (ใบโรตารี่) และใบเกลียวรุ่นใหม่ๆ เพื่อเข้าไปจำหน่ายเพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัท สยามคูโบต้า  ได้มีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศบางส่วน ซึ่งสยามคูโบต้าเล็งเห็นว่า หลังจากนี้จะให้ทาง KWM เป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวทดแทนจากนำเข้า

ส่วนสินค้าภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเองที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร อาทิ ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมบุกตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้ใช้สินค้าโดยตรง อย่างไรก็ตาม จากการขยายตัวที่เพิ่มขึ้น เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าเกษตรที่มีเข้ามาต่อเนื่องซึ่งก็จะส่งผลเชิงบวกต่อ KWM ในอนาคตมากยิ่งขึ้น

************

- Advertisement -