อธิบดีกรมปศุสัตว์ยืนยัน พบโรค ASF ในสุกร กดดันราคาหมูแพงต่อเนื่อง
ตลาดต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงซื้อกลับหลังปรับตัวลงแรงช่วงที่ผ่านมา หลังนายพาวเวล ประธาน Fed แถลงต่อสภาโดยไม่ได้มีท่าทีแตกต่างจากรายงานการประชุมอย่างมีนัยยะ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงต่ำสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวดีที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.9% หลังร่วงลงเกือบ 8% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด โดยข้อมูลจาก Refinitiv บ่งชี้ว่า ผลกำไรของบริษัทที่รวมในการคำนวณดัชนี STOXX 600 จะพุ่งขึ้น 49.3% ในไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.091 แสนล้านยูโร (1.237 แสนล้านดอลลาร์) จากปีก่อน
สำหรับท่าทีของผู้กำหนดนโยบายการเงินล่าสุด นายเจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืน สรุปมีมุมมองโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่ Fed ก็ไม่กลัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของ Fed ในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่งพอที่จะทำให้ Fed ไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนานใหญ่ต่อไป ถือว่าโดยรวมไม่ได้มีท่าทีแตกต่างจากรายงานการประชุมที่รายงานออกมาสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างมีนัยยะ ขณะที่ Fed Watch Tool ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากวันก่อนหน้าที่โอกาสขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งขึ้นไปมีมากกว่า 50% ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ นอกจากนี้จะมีการทยอยรายงานผลประกอบการ 4Q21 ของกลุ่มการเงินธนาคารเช่น JPMorgan, Wells Fargo, Citibank, Blackrock ในวันศุกร์
ตลาดภายในประเทศ: องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเน้นว่า “โควิด-19 ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่” และ “ยังไม่ถือเป็นโรคประจำถิ่น” หลังเริ่มมีแนวคิดดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการที่เชื้อโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้ออีกหลายสายพันธุ์ อย่างไรก็ตามผลการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสนี้ มีการเผยแพร่ออกมาในทางเดียวกันมากขึ้นว่าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนมากกว่าการลงไปที่ปอด จึงเป็นเหตุผลหลักทำให้เชื้อโอมิครอนเกิดอาการป่วย “ไม่รุนแรงเทียบเท่า” เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่นเช่น เดลตา ขณะที่ภายในประเทศนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมากล่าวว่าทางกรมควบคุมโรค กำลังพิจารณาเตรียมให้การระบาดครั้งนี้เข้าสู่โรคประจำถิ่น (Endemic) เนื่องจาก 1.เชื้อลดความรุนแรง 2.ประชาชนร่วมมือฉีดวัคซีน มีภูมิคุ้มกันค่อนข้างดี 3.การบริหารจัดการ ดูแลรักษา และการชะลอการระบาดได้อย่างดี” เรามองข้อมูลที่เกิดขึ้นทั่วโลกมีแนวโน้มในทางเดียวกันว่าโอมิครอนระบาดเร็วแต่ไม่รุนแรงและมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในที่สุด ดังนั้นเรายังคงแนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่มโรงแรมรวมถึงกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวกลับซึ่งถูกกดดันในช่วงที่ผ่านมาจากโอมิครอน
อธิบดีกรมปศุสัตว์แถลงพบโรค ASF ในสุกรจากโรงฆ่าสัตว์นครปฐม พร้อมประสานหารือภาคีเครือข่ายเพื่อควบคุมโรค ย้ำชัดไม่แพร่ระบาดติดต่อสู่คน ขณะที่ครม.อนุมัติงบกลางปี’65 จำนวน 574.11 ล้านบาท เยียวยาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ป้องกันโรคระบาดร้ายแรง ในสุกรหรือหมูป่าพื้นที่56 จังหวัด ขณะที่กรมการค้าภายในเพิ่มจุด ขายหมูราคาถูกจาก 662 จุด เพิ่มขึ้นอีก 1,500 จุด ทั้งนี้เราคาดว่าน่าจะเป็นผลบวกต่อ CPF และ TFG ที่ยังมีผลผลิตขายได้เพราะมีฟาร์มที่ได้มาตรฐาน และสายป่านที่ยาวกว่า จึงได้รับความเสียหายจากโรคระบาดน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเกษตรกรรายกลางและรายเล็ก
มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1660-70 หุ้นแนะนำ CK, JMT
CK (ราคาพื้นฐาน 29.67 บาท) คาดโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเปิดประมูลไตรมาส 1/2565. แนะนำซื้อจาก backlog ที่เติบโตดีและ holding discount ที่ลดลงหากจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
JMT (ราคาพื้นฐาน 55.00 บาท) เราคาด upside ต่อกำไรสุทธิจากกรณีจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ KBANK จำนวน 2 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจจัดเก็บหนี้และบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยคาดว่าจะช่วยล็อคอุปทาน NPL ให้ JMT ในปี 65 เป็นต้นไป
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตาม ตัวเลข CPI ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +1.8% YoY ตัวเลข PPI ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +11.1% YoY ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.4% MoM และ +7.0% YoY ตัวเลข Core CPI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.5% MoM และ +5.4% YoY ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และการประมูลพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ
วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย ตัวเลข Loan growth ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +11.7% YoY ตัวเลขปริมาณเงิน M2 ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +8.7% YoY ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์และถ้อยแถลงของ Fed Brainard
วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีนเดือน ธ.ค. คาด +20.0% YoY และ +25.9% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด flat MoM ตัวเลข Industrial production ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.3% MoM
