Our View? ” อย่าหยุดยัง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,673 / 1,667 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,700 เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ออกมาที่ระดับ 7.0% ไม่ได้มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ที่ 7.1% ช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือการปรับลดขนาดของงบดุล (QT) ของ FED ได้บ้าง รวมทั้งก่อนหน้านี้ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ไม่ได้มีการส่งสัญญาณในการปรับใช้นโยบายทางการเงินรุนแรงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ คาดจะหนุนบรรยากาศการลงทุนเข้าสู่ภาวะ Risk-on ได้อีกคร้ัง

ขณะท่ีตลาดในภูมิภาคอาจเผชิญแรงขายทำกำไรได้บ้าง จากการเร่งตัวสูงขึ้นของผู้ติดเชื้อใหม่ อย่างไรก็ตาม เรายังมองกังวลการแพร่ระบาดที่รวดเร็วของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron เป็นเพียง Noise เข้ามารบกวนตลาดเป็นระยะบ้างเท่าน้ัน โดยเราพบว่าการเร่งตัวของผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเร่งตัวขึ้นของผู้เสียชีวิต ทำให้เราคาดว่ารัฐบาลในประเทศต่างๆ จะไม่ออกมาตรการ Lockdown ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม แนะนำตามติดตามรายงานของการค้นพบเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ Deltacron ในไซปรัส ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานความรุนแรงของเชื้อไวรัสสายพันธ์ุดังกล่าว

สำหรับราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนปรับตัวต่อ ปิดที่ระดับ 82.64 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.42 ดอลลาร์ หรือ +1.75% ทำจุดสูงสุดใหม่ หลังจาก EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังคงฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แม้เผชิญความเสี่ยงจากไวรัส Omicron รวมทั้งรายงาน OPEC+ ผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตาที่กำหนด เนื่องจากประสบปัญหาการผลิตในประเทศไนจีเรียและลิเบีย คาดจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกจากการที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีซื้อไปแล้วราว 1.37 หมื่นล้านบาท เรามองจะหนุนหุ้นในกลุ่ม BigCap. ปรับตัวข้ึนได้ต่อ อีกทั้งคาดว่าตลาดจะเริ่มติดตามการเปิดเผยผลประกอบการ 4Q’64 นำโดยกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มรายงานออกมาในช่วงปลายสัปดาห์น้ี โดยเราคาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q’64 โดยเราชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, TTB) ท่ีคาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสามารถทำให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปีนี้ รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นขาขึ้น พร้อมทั้งการตั้ง ECL ที่คาดจะเริ่มปรับลดลงตั้งแต่ในช่วง 1Q’65 รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม EV Play (EA, GPSC,HANA และ SAT) ตามแนวโน้มการผลักดันการใช้รถไฟฟ้า (EV) ของไทย ที่ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี’73 และคาดว่าจะเริ่มเห็นการออกมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนที่ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปีนี้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “VGI”

แนวรับ 6.65 / 6.50 Target 7.25 / 7.90 Stop <6.40

- Advertisement -